ทาง Kashima Antlers ประกาศในวันที่ 12 กรกฎาคมว่า อาเบะ ฮิโรกิย้ายไปอยู่สโมสรบาร์เซโลน่าอย่างเป็นทางการ โดยสัปดาห์หน้าจะมีการเดินทางไปยุโรปเพื่อตรวจเช็คร่างกายพร้อมกับมีการเซ็นสัญญาออกมาอย่างเป็นทางการอีกที โดยหลักแล้ว 2 ปีแรกจะอยู่กับทีมชุด B ที่อยู่ในลีก 3 เพื่อหาโอกาสเลื่อนขั้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ต่อไป
อาเบะมีโอกาสลงเล่นใน J1 ทั้งหมด 49 นัดแต่ทำไปได้เพียงแค่ 4 ประตูเท่านั้น ในฤดูกาลนี้ได้รับมอบเสื้อหมายเลข 10 และก็หายจากการลงสนามไปในช่วงกลางฤดูกาล แต่ถึงกระนั้นบาร์เซโลน่าก็ยังเชื่อมั่นในความเป็นไปได้ของอาเบะ จึงมีข่าวว่าบาร์ซ่าให้ความสนใจอาเบะมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายน จนพอเขาได้ลงเล่นในศึก Copa America เสร็จแล้วนั้น เมื่อเดินทางกลับมาถึงญี่ปุ่นในช่วงต้นกรกฎาคมก็มีข้อเสนออย่างเป็นทางการยื่นมาอีกที นั่นจึงหมายความว่าบาร์เซโลน่าคอยจับตาดูอาเบะตั้งแต่ช่วงท้ายของฤดูกาลก่อนจนถึงช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้โดยละเอียด ถึงเจ้าตัวอาเบะจะมีความปรารถนาที่จะค้าแข้งในต่างประเทศก็ตาม แต่ก็นับว่าเกินคาดมากที่สโมสรระดับโลกจะมาคว้าตัวของเขาไปเช่นนี้
"เป็นทีมที่คาดไม่ถึงมากเลยครับ ผมตกใจมากจริง ๆ ไม่คิดว่าจะมีโอกาสแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเองด้วย แต่ก็เหมือนกับตอนสมัยที่ผมเล่นอยู่ม.ปลายแล้วเทิร์นโปรที่คาชิม่า ผมคิดว่าสิ่งสำคัญคือการยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นไปครับ"
นักเตะเกินครึ่งไม่ได้ลงสนามถึงสิบนัด... ทำไมอาเบะ ฮิโรกิถึงตัดสินใจเลือกไปบาร์เซโลน่า B กันแน่?
カテゴリ：日本代表
2019/07/13
ถึงจะมีโอกาสขึ้นทะเบียนติดทีมชุดใหญ่ก็ตาม แต่ก็เป็นไปได้เพียงหยิบมือ
อาเบะที่ย้ายไปบาร์เซโลน่าอย่างแน่นอนแล้ว เขาจะเอาตัวรอดจากการแข่งขันที่ดุเดือดได้หรือไม่
(C) Getty Images
ทางเลือกอย่างสโมสรบาร์เซโลน่านั้นก็เต็มไปด้วยขวากหนาม ลีก 3 ที่เรียกว่า Segunda B นั้นมีทั้งหมด 80 ทีมโดยจะมีเพียงแค่ 2 ทีมเท่านั้นที่จะได้เลื่อนชั้นมาเล่นใน Segunda A เพียงแต่ว่าเป้าหมายหลักของทีมรองทั้งบาร์ซ่า เรอัลมาดริดและแอตเลติโกมาดริดนั้นไม่ใช่การเลื่อนชั้นลีกแต่เป็นการที่นักเตะจะได้ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ แน่นอนว่าการที่เพื่อนร่วมทีมจะกลายเป็นคู่แข่งนั้นมันก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในโลกนี้ เพียงแต่ว่าสำหรับบาร์เซโลน่านั้นก็เพิ่มดีกรีความหนักหน่วงเหนือสโมสรอื่นใด
ทีมบาร์เซโลน่า B ที่นักเตะในช่วงวัย 16-22 ปีเล่นอยู่นั้นกว่า 80% เป็นนักเตะเยาวชนที่มาจากอคาเดมี Cantera จึงกลายเป็นทีมของนักเตะที่ฟูมฟักไปด้วยปรัชญาของบาร์ซ่ามาตั้งแต่เยาว์วัย ในฤดูกาลก่อนมีนักเตะในทีมชุดนี้ทั้งหมด 38 คนจากทั้งหมด 10 เชื้อชาติ แต่มีนักเตะ 10 คนที่ไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนาม มิหนำซ้ำนักเตะเกินครึ่งรวม ๆ 20 คนยังลงสนามได้ไม่ถึง 10 นัดเพียงเท่านั้น ถึงจะมีนักเตะบางคนที่ถูกเลือกติดทีมชุดใหญ่ก็ตามแต่ก็มีเพียงหยิบมือเท่านั้นที่ได้ลงทะเบียนกับทีมชุดใหญ่จริง ๆ นักเตะส่วนใหญ่ถูกขายไปกับทีมอื่นโดยการแปะเครื่องหมายการค้าว่าเป็น "อดีตนักเตะบาร์ซ่า"
สภาพแวดล้อมแสนโหดร้ายเหล่านั้นคือสิ่งที่อาเบะเลือกที่จะเข้าไปเผชิญ
ทีมบาร์เซโลน่า B ที่นักเตะในช่วงวัย 16-22 ปีเล่นอยู่นั้นกว่า 80% เป็นนักเตะเยาวชนที่มาจากอคาเดมี Cantera จึงกลายเป็นทีมของนักเตะที่ฟูมฟักไปด้วยปรัชญาของบาร์ซ่ามาตั้งแต่เยาว์วัย ในฤดูกาลก่อนมีนักเตะในทีมชุดนี้ทั้งหมด 38 คนจากทั้งหมด 10 เชื้อชาติ แต่มีนักเตะ 10 คนที่ไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนาม มิหนำซ้ำนักเตะเกินครึ่งรวม ๆ 20 คนยังลงสนามได้ไม่ถึง 10 นัดเพียงเท่านั้น ถึงจะมีนักเตะบางคนที่ถูกเลือกติดทีมชุดใหญ่ก็ตามแต่ก็มีเพียงหยิบมือเท่านั้นที่ได้ลงทะเบียนกับทีมชุดใหญ่จริง ๆ นักเตะส่วนใหญ่ถูกขายไปกับทีมอื่นโดยการแปะเครื่องหมายการค้าว่าเป็น "อดีตนักเตะบาร์ซ่า"
สภาพแวดล้อมแสนโหดร้ายเหล่านั้นคือสิ่งที่อาเบะเลือกที่จะเข้าไปเผชิญ
