ว่าที่คลาเรนซ์ ซีดอร์ฟ...
นับจากวันนี้ย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อนในฤดูร้อนปี 2009 นักเตะวัย 20 ปีจากเนเธอร์แลนด์ผู้ย้ายมาอยู่กับเรอัลมาดริดและลงสนามนัดเปิดฤดูกาลที่เป็นถ้วยซูเปอร์คัพ "เจ้าของทรงผมเดรดล็อค" ในวันนั้นเขายิงลูกจากนอกกรอบเขตโทษเข้าประตูได้อย่างดุดันแสนงดงาม
สิ่งเดียวที่แตกต่างจากซีดอร์ฟ ยอดนักเตะผู้สร้างสรรค์ผลงานยอดเยี่ยมให้กับทีมราชันชุดขาวในยุค 90 และเป็นตำนานผู้ทำให้สโมสรคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 7 มาครองนั้นคือขาข้างถนัดที่ไม่เหมือนกัน แต่รูปร่างหน้าตา ภูมิลำเนา รวมทั้งตำแหน่งการเล่นในนัดนั้น(ตำแหน่งปกติคือริมเส้นฝั่งซ้าย แต่ในนัดนี้ถูกจัดให้เป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง)ระหว่างเขากับซีดอร์ฟนั้นแทบจะถอดแบบกันมาเลยก็ว่าได้
ทั้งแฟน ๆ และผู้เกี่ยวข้องกับสโมสรต่างก็คาดหวังถึงน้องใหม่ผิวเข้มคนนี้กันทั้งสิ้น เพื่อนร่วมทีมในสมัยนั้นมีทั้งรุต ฟาน นิสเตอรอย, อาร์เยน รอบเบน และเวสลีย์ ชไนเดล กล่าวได้ว่านั่นคือสภาพแวดล้อมที่แสนยอดเยี่ยมของนักเตะดัทช์วัยเยาว์ที่จะเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทว่าชีวิตการค้าแข้งของรอยสโตน แดรนเตอนั้นกลับดิ่งฮวบลง
【พรสวรรค์ที่สาบสูญ】แดรนเตอที่ว่ากันว่าเป็น "นิวซีดอร์ฟ" นั้นปัจจุบันนี้เขาอยู่ไหน? มีแขวนสตั๊ดไปครั้งหนึ่งเพราะหลงใหลในแฟชั่นและเสียงดนตรี...
カテゴリ:井川洋一
2019/06/22
คว้าแชมป์ยุโรปรุ่น U-21 จากนั้นย้ายไปเรอัลมาดริด
เขามีเชื้อสายซูรินามเหมือนกันกับซีดอร์ฟ ทว่ารุ่นพี่ผู้ยิ่งใหญ่นั้นเติบโตจากซูรินาม ทว่าตัวของเขาลืมตาดูโลกที่เนเธอร์แลนด์ เมื่ออายุ 13 ปีย้ายเข้าไปอยู่กับสโมสร Feyenoord ชื่อดัง จากนั้นก็ขึ้นทีมชุดใหญ่เมื่ออายุ 18 ปี
ในปีที่ 2 เมื่อฤดูกาล 2006-2007 เขาก็คว้าตำแหน่งนักเตะตัวจริงมาครองได้ จนเมื่อจบฤดูกาลนั้นเขาก็ร่วมลงศึกชิงแชมป์ยุโรปรุ่น U-21 และเป็นส่วนสำคัญให้ทีมชาติเนเธอร์แลนด์คว้าแชมป์พร้อมกับคว้าตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์มาครอง
ผลงานของเขาเข้าตาเรอัลมาดริดจนได้ย้ายมาอยู่กับถิ่นราชันชุดขาว ในนัดประเดิมสนามเขาก็เปิดตัวได้อย่างสวยงาม ทว่าหลังจาก 3 ปีแรกที่อยู่กับทีม พอเข้าสู่ปี 2010 ก็ย้ายไปยืมตัวเล่นอยู่กับสโมสร Hércules ทีมระดับกลางในสเปน แม้เขาจะมีบุคลิกร่าเริงและมีอัธยาศัยที่ดีกับเพื่อนร่วมทีมก็ตาม แต่ท่ามกลางเรอัลมาดริดที่มีดาวนักเตะระดับโลกอยู่อย่างคับคั่งจึงทำให้เขาไม่สามารถคว้าตำแหน่งนักเตะตัวจริงมาครอบครองได้
พอไปอยู่กับทีมใหม่หลังจากที่ได้ค่าเหนื่อยช้าจึงทำการประท้วงด้วยการเข้ารวมทีมในช่วงฤดูหนาวที่เชื่องช้ายิ่งกว่า การกระทำดังกล่าวเหมือนเป็นการกระตุกหนวดเสือของผู้บริหารในสโมสรจึงทำให้ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังเขาไม่มีชื่อแม้กระทั่งม้านั่งสำรอง
ในปีที่ 2 เมื่อฤดูกาล 2006-2007 เขาก็คว้าตำแหน่งนักเตะตัวจริงมาครองได้ จนเมื่อจบฤดูกาลนั้นเขาก็ร่วมลงศึกชิงแชมป์ยุโรปรุ่น U-21 และเป็นส่วนสำคัญให้ทีมชาติเนเธอร์แลนด์คว้าแชมป์พร้อมกับคว้าตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์มาครอง
ผลงานของเขาเข้าตาเรอัลมาดริดจนได้ย้ายมาอยู่กับถิ่นราชันชุดขาว ในนัดประเดิมสนามเขาก็เปิดตัวได้อย่างสวยงาม ทว่าหลังจาก 3 ปีแรกที่อยู่กับทีม พอเข้าสู่ปี 2010 ก็ย้ายไปยืมตัวเล่นอยู่กับสโมสร Hércules ทีมระดับกลางในสเปน แม้เขาจะมีบุคลิกร่าเริงและมีอัธยาศัยที่ดีกับเพื่อนร่วมทีมก็ตาม แต่ท่ามกลางเรอัลมาดริดที่มีดาวนักเตะระดับโลกอยู่อย่างคับคั่งจึงทำให้เขาไม่สามารถคว้าตำแหน่งนักเตะตัวจริงมาครอบครองได้
พอไปอยู่กับทีมใหม่หลังจากที่ได้ค่าเหนื่อยช้าจึงทำการประท้วงด้วยการเข้ารวมทีมในช่วงฤดูหนาวที่เชื่องช้ายิ่งกว่า การกระทำดังกล่าวเหมือนเป็นการกระตุกหนวดเสือของผู้บริหารในสโมสรจึงทำให้ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังเขาไม่มีชื่อแม้กระทั่งม้านั่งสำรอง