หลังมีการประกาศว่า "คุโบะ ทาเคฟุสะย้ายเข้าเรอัลมาดริด" พวกเราในฐานะนักข่าวที่ตามติดเรื่องราวของมาดริดนั้นก็หงายเงิบกันหมด ท่ามกลางเสริมทัพครั้งใหญ่หลังผ่านฤดูกาลที่ย่ำแย่ที่สุดในศตวรรษ หลังจากเสริมนักเตะมากมายในทีมชุดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเอแดน อาซาร์, ลูก้า โยวิช, เฟอร์ลาน เมนดี้ ก็ไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ ว่าจะมีไม้ใหม่ด้วยการประกาศนักเตะเข้าในทีมชุด B แบบนี้ด้วย
มิหนำซ้ำคนที่คว้าตัวเข้ามาก็ยังเป็นคุโบะ นักเตะเยาวชนอคาเดมีของบาร์ซ่า เมื่อเขาอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ได้หวนกลับมาที่สเปนอีกครั้ง ตอนแรกก็เข้าใจว่าจะหวนกลับสู่ทีมเก่าแต่กระนั้นผู้ที่คว้าตัวของเขาไปครองกลับไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นเรอัลมาดริดเสียแทน
แน่นอนว่าส่วนหนึ่งก็เป็นการหวังผลทางการตลาดอยู่แล้ว อายุเพิ่ง 18 ปีบริบูรณ์แต่ติดทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ แค่ประเด็นนี้ก็เป็นกระแสโด่งดังอย่างมากมาย หากสโมสรจะชูมาเป็นจุดขายก็มีแต่ผลบวกและบวก ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าทางประธานฟลอเรนติโน่ เปเรซที่เล็งเห็นโอกาสดังกล่าวนั้น เมื่อเขาพบว่าการเจรจาของคุโบะกับบาร์ซ่าเกิดการติดขัด ก็เลยรีบกระโดดไปยื่นข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้และทำสัญญาคว้าตัวมาครองโดยทันที
【สดจากสนาม】ทำไมมาดริดจึงคว้าตัวคุโบะ ทาเคฟุสะ? กุญแจสำคัญที่ทำให้เขาเลื่อนสู่ทีมชุดใหญ่คือ...
カテゴリ:海外日本人
2019/06/15
นักข่าวที่เกาะติดเมื่อทราบเรื่องก็ยังหงายเงิบ

คุโบะผู้ย้ายเข้ามาดริดอย่างเป็นทางการ เริ่มต้นจากการคว้าตำแหน่งตัวจริงในทีมชุด B ให้ได้เสียก่อน
ภาพโดย: คาเนโกะ ทาคุยะ(Soccer Digest Photo Team)
กระนั้นมาดริดก็เป็นสโมสรระดับแนวหน้าของโลก ยังมีข้อครหามากมายว่าคุโบะจะมีพรสวรรค์และความสามารถครบเครื่องเพียงพอที่จะเล่นกับทีมนี้หรือไม่ ซึ่งในช่วงหลายปีให้หลังมานี้มาดริดก็เสริมทัพกำลังนักเตะเยาวชนอย่างมากมาย ขยายการรีครูทไปยังวงกว้างทั่วทั้งโลก เริ่มตั้งแต่วินิซิอุส จูนิโอ้รวมไปถึงโรดิโกร้ นอกจากนั้นก็ยังมีอันดรีย์ ลูนิน และ มาร์ตีน อูแตโก พวกเขาเหล่านั้นต่างก็เป็นนักเตะดีกรีทีมชาติเพราะฉะนั้นคุโบะจึงถูกจัดระดับอยู่ในกลุ่มเทียบเคียงกับพวกเขาก็ว่าได้กระมัง
การเสริมทัพนักเตะในทีมชุด B ที่สร้างกระแสนั้นครั้งสุดท้ายก็คือตัวของอูแตโก แม้เขาจะไม่มีอิมแพ็คกับ Castilla เท่าไรนัก แต่ก็ยังมีโอกาสได้เล่นทีมชุดใหญ่ทั้งยังได้สิทธิพิเศษอีกมากมายจากสัญญา จึงทำให้เขาเข้ากับเพื่อนร่วมทีมไม่ได้(ฤดูกาล 2018-2019 ย้ายไปเล่นกับ Vitesse)
แต่ในกรณีของคุโบะนั้น หากเทียบกับอูแตโกที่ได้ค่าเหนื่อย 10.5 ล้านยูโรจากการเล่นเพียงแค่สองฤดูกาลขึ้นพร้อมกับถูกปฏิบัติเยี่ยง VIP ล่ะก็ ค่าเหนื่อยของคุโบะที่ปีละ 1 ล้านยูโรก็อยู่ในจุดใกล้เคียงกับหัวหอกรุ่นราวคราวเดียวกันอย่างมาเรียโน่ ดิอาซและบอร์จา มาโยรัล เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ได้ถูกปฏิบัติเยี่ยงเด็กเส้นแต่อย่างใด เพื่อนร่วมทีมน่าจะรับกันได้อย่างไม่ยากอะไรนัก
นอกจากนั้นยังมีโอกาสที่เขาจะได้ร่วมทัวร์อเมริกากับทีมชุดใหญ่ในช่วงฤดูร้อนนี้อีกด้วย หากเริ่มต้นฤดูกาลเมื่อไรก็จะเริ่มลงฝึกกับ Castilla โดยทันที
การเสริมทัพนักเตะในทีมชุด B ที่สร้างกระแสนั้นครั้งสุดท้ายก็คือตัวของอูแตโก แม้เขาจะไม่มีอิมแพ็คกับ Castilla เท่าไรนัก แต่ก็ยังมีโอกาสได้เล่นทีมชุดใหญ่ทั้งยังได้สิทธิพิเศษอีกมากมายจากสัญญา จึงทำให้เขาเข้ากับเพื่อนร่วมทีมไม่ได้(ฤดูกาล 2018-2019 ย้ายไปเล่นกับ Vitesse)
แต่ในกรณีของคุโบะนั้น หากเทียบกับอูแตโกที่ได้ค่าเหนื่อย 10.5 ล้านยูโรจากการเล่นเพียงแค่สองฤดูกาลขึ้นพร้อมกับถูกปฏิบัติเยี่ยง VIP ล่ะก็ ค่าเหนื่อยของคุโบะที่ปีละ 1 ล้านยูโรก็อยู่ในจุดใกล้เคียงกับหัวหอกรุ่นราวคราวเดียวกันอย่างมาเรียโน่ ดิอาซและบอร์จา มาโยรัล เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ได้ถูกปฏิบัติเยี่ยงเด็กเส้นแต่อย่างใด เพื่อนร่วมทีมน่าจะรับกันได้อย่างไม่ยากอะไรนัก
นอกจากนั้นยังมีโอกาสที่เขาจะได้ร่วมทัวร์อเมริกากับทีมชุดใหญ่ในช่วงฤดูร้อนนี้อีกด้วย หากเริ่มต้นฤดูกาลเมื่อไรก็จะเริ่มลงฝึกกับ Castilla โดยทันที