ทั้งคุโบะ ทาเคฟุสะ และ ลีกังอินนั้นพวกเขาสองคนต่างเกิดในปี 2001 ล้วนเคยไปที่สเปนเมื่ออายุ 10 ขวบ ทั้งสองคนต่างเป็นกรุสมบัติของประเทศบ้านเกิด ว่าแต่ว่าสองนักเตะที่ถนัดเท้าซ้ายเหมือนกันนั้น ใครกันแน่ที่เจ๋งกว่ากันล่ะ?
เริ่มต้นจากคุโบะ ทาเคฟุสะ เมื่ออายุ 10 ปีเขาเข้าอคาเดมีของบาร์เซโลน่า แต่หลังจากนั้นตามกฎระเบียบของ FIFA จึงทำให้เขาต้องเดินทางกลับญี่ปุ่นเมื่ออายุ 13 ปี(บาร์เซโลน่าถูกลงโทษเนื่องจากการลงทะเบียนนักเตะต่างชาติที่อายุไม่ถึง 18 ปี) หลังจากนั้นคุโบะก็ย้ายมาอยู่กับทีมเยาวชนของ FC Tokyo เทิร์นโปรในปี 2017 พร้อมกับลงสนามในนัดสุดท้ายของฤดูกาลนัดที่ 33 ในวัย 16 ปี 5 เดือน 22 วันกับเกมที่เจอกับฮิโรชิม่าถือเป็นการเดบิวต์ใน J1 เป็นครั้งแรก ในฤดูกาลถัดมาย้ายไปเล่นยืมตัวให้กับสโมสรโยโกฮาม่าจึงมีโอกาสลงสนามมากขึ้น เขาทำ 4 ประตูจากการแข่งขัน 13 นัด เขาสร้างผลงานเข้าตากรรมการจนดึงดูดสายตาไปทั่ว ล่าสุดวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมาก็ย้ายเข้าสโมสรเรอัลมาดริดอย่างเป็นทางการ
หลังจากสั่งสมประสบการณ์ในฐานะทีมชาติรุ่นเยาว์จากรุ่นสู่รุ่น พอปี 2017 ด้วยวัย 16 ปีก็กระโดดมาติดทีมชาติรุ่น U-20 ลงสู้ศึกฟุตบอลโลก จนล่าสุดเกมในวันที่ 9 มิถุนายนที่ต้องเจอกับเอลซาวาดอร์ คุโบะก็ลงสนามในฐานะนักเตะทีมชาติชุดใหญ่อย่างเป็นทางการ
ส่วนฝั่งของลีกังอินนั้น เขาเข้าอคาเดมีของบาเลนเซียตั้งแต่ 10 ขวบ จากนั้นก็กลายเป็นนักเตะชาวต่างชาติคนแรกของสโมสรที่เดบิวต์ลาลีก้าด้วยอายุน้อยที่สุด (17 ปี 10 เดือน 24 วัน) ฤดูกาลนี้ได้ลงแข่งลีกสูงสุดระดับโลก 3 นัดและร่วมในศึกยูโรป้า 2 นัดด้วย
ในเดือนมีนาคมถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกแต่ยังไม่ได้ลงสนาม แต่สำหรับศึกฟุตบอลโลกรุ่น U-20 นั้นเขาสวมเสื้อหมายเลข 10 ลงแข่งขันทำผลงานไป 2 ประตู 4 แอสซิสต์ เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ทีมชาติเกาหลีใต้ได้รองแชมป์ในรายการนี้
คุโบะ ทาเคฟุสะที่เข้าเรอัลมาดริดกับลีกังอินที่เข้าบาเลนเซีย ระหว่างนักเตะญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้สองคนนี้ใครเจ๋งกว่า?
カテゴリ:ワールド
2019/06/16
จุดร่วมคือเกิดปี 2001 เคยไปสเปนเมื่ออายุ 10 ขวบและถนัดเท้าซ้าย

คุโบะแห่งญี่ปุ่นและลีกังอินแห่งเกาหลีใต้ นักเตะสองคนนี้มีจุดร่วมเหมือนกันหลายประการ
(C)SOCCER DIGEST
ทั้งคุโบะทั้งลีกังอินต่างก็มีทักษะฟุตบอลที่หายากเหมือนกัน มีความสามารถในการลากเลื้อยพาบอลอย่างสวยงามท่ามกลางกองหลังที่รายล้อมหลายคน ทั้งสองต่างก็สามารถจบสกอร์และจ่ายแอสซิสต์ได้ นับว่าเป็นนักเตะที่มีความอัจฉริยะกันทั้งคู่ แต่หากเอามาเปรียบเทียบกันจริง ๆ ล่ะก็เรื่องการจบสกอร์นั้นทั้งสองจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย
สำหรับคุโบะผู้เริ่มทำประตูได้ในเจลีกนั้น จากสไตล์ของเขาแล้วเขาออกไปทางกองหน้า(Striker)มากกว่า หลังจากลงสนามในนาที 73 ที่ต้องเจอกับเอลซาวาดอร์ เขากระชากบอลเข้าจากฝั่งขวาแล้วก็ทำการยิงจบสกอร์ หากมองจากสไตล์การเล่นในหลายเกมที่ผ่านมานี้ดูเขามีเซนส์ในการยิงประตูด้วยดุลพินิจที่แน่ชัดมากกว่า
ในส่วนของทางลีกังอินนั้น เขาสร้างสถิติ 4 แอสซิสต์ในฟุตบอลโลกรุ่น U-20 จึงจะออกไปในทางเพลย์เมคเกอร์มากกว่า ในรอบแบ่งกลุ่มที่ต้องเจอกับอาร์เจนตินา เขาโชว์สไตล์การลากเลื้อยจากฝั่งซ้ายแล้วก็เปิดบอลเข้าไปให้โอเซจุนอย่างแม่นยำจนได้แอสซิสต์ในนัดนั้น ซึ่งการแข่งขันในนัดชิงกับอุรุกวัยบทบาทของเขาออกไปในทางนักจ่ายบอลมากเสียกว่า
แน่นอนว่าพวกเขาทั้งสองคนต่างก็เป็นนักเตะที่ทั้งยิงทั้งจ่ายได้หมด เพียงแต่ว่าหากจะต้องเปรียบเทียบกันล่ะก็ หากดูสไตล์การลากบอลจากพื้นที่ริมเส้นเข้าในกรอบของทั้งสองนักเตะในหลาย ๆ นัดที่ผ่านมาแล้ว คุโบะจะเลือกจบสกอร์แต่ลีอิงกันจะเลือกจ่าย เพราะฉะนั้นจึงทำให้เห็นว่าทั้งสองคนต่างก็มีสไตล์ที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อย
สำหรับคุโบะผู้เริ่มทำประตูได้ในเจลีกนั้น จากสไตล์ของเขาแล้วเขาออกไปทางกองหน้า(Striker)มากกว่า หลังจากลงสนามในนาที 73 ที่ต้องเจอกับเอลซาวาดอร์ เขากระชากบอลเข้าจากฝั่งขวาแล้วก็ทำการยิงจบสกอร์ หากมองจากสไตล์การเล่นในหลายเกมที่ผ่านมานี้ดูเขามีเซนส์ในการยิงประตูด้วยดุลพินิจที่แน่ชัดมากกว่า
ในส่วนของทางลีกังอินนั้น เขาสร้างสถิติ 4 แอสซิสต์ในฟุตบอลโลกรุ่น U-20 จึงจะออกไปในทางเพลย์เมคเกอร์มากกว่า ในรอบแบ่งกลุ่มที่ต้องเจอกับอาร์เจนตินา เขาโชว์สไตล์การลากเลื้อยจากฝั่งซ้ายแล้วก็เปิดบอลเข้าไปให้โอเซจุนอย่างแม่นยำจนได้แอสซิสต์ในนัดนั้น ซึ่งการแข่งขันในนัดชิงกับอุรุกวัยบทบาทของเขาออกไปในทางนักจ่ายบอลมากเสียกว่า
แน่นอนว่าพวกเขาทั้งสองคนต่างก็เป็นนักเตะที่ทั้งยิงทั้งจ่ายได้หมด เพียงแต่ว่าหากจะต้องเปรียบเทียบกันล่ะก็ หากดูสไตล์การลากบอลจากพื้นที่ริมเส้นเข้าในกรอบของทั้งสองนักเตะในหลาย ๆ นัดที่ผ่านมาแล้ว คุโบะจะเลือกจบสกอร์แต่ลีอิงกันจะเลือกจ่าย เพราะฉะนั้นจึงทำให้เห็นว่าทั้งสองคนต่างก็มีสไตล์ที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อย