Pick Up!

  • トップ
  • ニュース一覧
  • 「เคยเห็นทีมแบบนีั้มาก่อนไหม!?」「คืนที่ดีที่สุดในอาชีพ」คล็อปป์กุนซือเลือดร้อนสุดปลื้มกับแชมป์ยุโรปครั้งแรกที่เฝ้ารอมาเนิ่นนาน!

「เคยเห็นทีมแบบนีั้มาก่อนไหม!?」「คืนที่ดีที่สุดในอาชีพ」คล็อปป์กุนซือเลือดร้อนสุดปลื้มกับแชมป์ยุโรปครั้งแรกที่เฝ้ารอมาเนิ่นนาน!

カテゴリ:メガクラブ

サッカーダイジェストWeb編集部

2019/06/02

กุนซือเลือดร้อนผู้ถูกตั้งฉายาว่าเป็นเจ้าแห่งรองแชมป์ในที่สุดก็ถึงเวลาของเขาแล้ว!

คล็อปป์ผู้คว้าบิ๊กเยียร์ร่วมกับเหล่านักเตะมาครอบครองได้ สีหน้าของเขาบอกเล่าเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่าง

(C) Getty Images

画像を見る

  กุนซือเลือดร้อนแห่งสโมสรลิเวอร์พูลตะโกนกู่ร้องด้วยความดีใจกับ "โอกาสครั้งที่ 3" ในนัดที่มีความหมายเป็นอย่างยิ่งสำหรับตัวของเขา

  วันที่ 1 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศศึก UEFA Champions League ที่กรุงมาดริดประเทศสเปน สโมสรลิเวอร์พูลเอาชนะท็อตแนมฮ็อตสเปอร์ได้ด้วยผลการแข่งขัน 2-0 ทำให้สามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 6 มาครองได้

  นาทีที่ 2 หลังเริ่มเขี่ยลูก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ได้สังหารจุดโทษให้ทีมลิเวอร์พูลออกนำก่อนได้ หลังจากนั้นก็ต้องรับมือกับเกมรุกสวนกลับอย่างคล่องแคล่วของสเปอร์ จนกระทั่งนาที 87 ดิว็อค โอริกิก็ยิงประตูเพิ่มอีกหนึ่งลูกเพื่อเป็นการฝังสเปอร์ได้อย่างอยู่หมัด

  ผู้ที่กล่าวประโยคว่า "คืนที่ดีที่สุดในอาชีพ" ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นกุนซือของสโมสรลิเวอร์พูลอย่างเจอร์เกน คล็อปป์

  ในอดีตที่ผ่านมา เขาเคยเข้าชิงแชมป์เปี้ยนส์ลีกมาแล้ว 2 ครั้ง (ปี 2013 และ 2018) แต่ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน ได้แค่รองแชมป์เท่านั้น... นอกจากนั้นหากนับการคุมทีมแข่งนัดชิงชนะเลิศในฟุตบอลชิงถ้วยล่ะก็ ตลอดเวลาที่ผ่านมาคล็อปป์ได้รองแชมป์ถึง 6 ครั้งจากการแข่งขันทั้งหมด 7 ครั้ง จนถูกตั้งฉายาเป็นกุนซือรองแชมป์ที่คว้าแต่เหรียญเงิน(Silver Holder)

  แต่แล้วกุนซือวัย 51 ปีเจ้าของฉายาดังกล่าวนั้น ก็ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ กับทาง BT Sports หลังจบการแข่งขันว่า
 
  "ผมดีใจกับทุกคนที่รักสโมสรลิเวอร์พูลมากเหลือเกิน นอกจากนั้นผมต้องขอบคุณครอบครัวของผมด้วย พวกเขาผ่านประสบการณ์ชอกช้ำมามากมาย พวกเขาเหล่านั้นคู่ควรกับชัยชนะเหนือใครอื่นใด สำหรับผมแล้วนี่คือค่ำคืนที่ดีที่สุดในอาชีพเลยล่ะนะ"

  คล็อปป์ผู้คุมลิเวอร์พูลเข้าสู่ปีที่ 4 นั้น ปีนี้เขาคว้าบิ๊กเยียร์มาให้กับสโมสรได้ เขาทำการกล่าวชมลูกทีมที่เติมเต็มความฝันดังนี้

  "ผมต้องขอบคุณพวกเด็ก ๆ มากเหลือเกิน คุณเคยเห็นทีมแบบนี้มาก่อนไหม! ทั้งที่น้ำมันหมดถังแล้วแต่ก็ยังวิ่งกันได้ขนาดนี้น่ะ!? แล้วก็ต้องชื่นชมผู้รักษาประตูที่สามารถรับลูกได้อย่างง่ายดายแม้ว่าสถานการณ์ในทีมจะยากลำบากแค่ไหนด้วย

  มันใช้เวลามากเลยกว่าจะมาจนถึงจุดนี้ แต่มันก็เป็นช่วงเวลาสำคัญที่พวกเราคอยพัฒนาและร่วมปรับปรุงกันมา ผมคิดว่าชัยชนะในนัดนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญมาก อย่างน้อยผมก็ทำงานนี้ต่อได้ล่ะนะ ผมคงไม่โดนกดดันจากทางเจ้าของสโมสรอีกต่อไปแล้ว"

  และแล้วก็ต้องมาดูต่อไปว่า ลิเวอร์พูลจะยังสามารถรักษายุคทองของพวกเขาหลังจากที่คว้าถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ลีกมาครองได้หรือไม่ ฤดูกาลหน้าห้ามละสายตาจากเหล่านักเตะหงส์แดงเป็นอันขาดเลย

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest

Facebookでコメント