สำหรับแข้งในยุคทองนั้น การได้พานพบกับฟิลิเป้ โทรวซิเย่มันมีความหมายอะไรกันแน่?
 
  โทรวซิเย่นั้นเดินทางมาที่ญี่ปุ่นด้วยความทะเยอทะยานที่มีอย่างสูงส่ง เจ้าตัวเคยระบุ "โปรเจคที่เปี่ยมไปด้วยความทะเยอทะยาน" คือการนำเอาทีมชาติชุดใหญ่และทีมชาติชุดโอลิมปิกมาผนึกกัน ไม่ใช่แค่ในสนามเท่านั้น ยังต้องการเชื่อมโยงกับสมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่นให้ก้าวหน้าไปข้างหน้ายิ่งกว่านี้ให้ได้ ซึ่งนั่นคือเพื่อเป้าหมายในการผ่านทะลุรอบแบ่งกลุ่ม แล้วในเวลาเดียวกันนั้นยังเป็นการเตรียมตัวเพื่อวงการฟุตบอลญี่ปุ่นในอนาคต

  ทีมที่เลือกเฟ้นตัวนักเตะอายุน้อยชุดโอลิมปิกมาแล้วเลื่อนชั้นให้เล่นทีมชาติชุดใหญ่เพื่อเตรียมตัวสู่ศึกฟุตบอลโลก ซึ่งไอเดียของโทรวซิเย่นี้นั้นมาจากช่วงเดือนตุลาคมปี 1998 ที่เขาเดินทางมาที่เชียงใหม่เพื่อทัศนศึกษาในกิจกรรม Asia Youth เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงเดือนเดียวก่อนจะได้คุมทีมชาติญี่ปุ่น และนั่นกลายเป็นการ "พานพบ" ระหว่างนักเตะยุคทองกับโทรวซิเย่
 
  "ทักษะของนักเตะรุ่นนี้นั้นมีความก้าวล้ำไปยิ่งกว่านักเตะทีมชาติวัยเก๋า หากให้พวกเขาเป็นศูนย์กลางของอนาคตล่ะก็ ความเป็นไปได้ของญี่ปุ่นจะแผ่ขยายมากยิ่งขึ้น"
 
  ท่ามกลางสนามกีฬาเชียงใหม่ที่ผู้ชมบางตา "เก้าอี้ในสนามแค่นั่งชมการแข่งขันสองนัดก็ลำบาก" โทรวซิเย่บอกเล่าประสบการณ์อันเล่าร้อนของเขาให้กับผู้เขียนฟังพร้อมกับนึกถึงวันวาน การดึงเอานักเตะชุดเยาวชนที่ไม่ได้ทำสัญญากับสมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่นนั้นคือการสร้างทีมอันยิ่งใหญ่จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ "โปรเจคแห่งความทะเยอทะยาน" นับเป็นก้าวแรกของการผสมผสานเข้าด้วยกัน

 

  กระบวนการก่อสร้างทีมที่โทรวซิเย่เรียกว่าแลบอราโทรี่(ห้องทดลอง)นั้นสำหรับนักเตะเยาวชนแล้ว ไม่สิ สำหรับวงการฟุตบอลญี่ปุ่นแล้วสิ่งเหล่านั้นคือประสบการณ์ที่ไม่มีใครเคยสัมผัสมาก่อน
 
  เพื่อสั่งสอนเรื่องการใช้ทักษะและการใช้ร่างกาย เขาจึงทุ่มทุกอย่างกับเหล่านักเตะในช่วงฝึกซ้อม ยิ่งบอดี้คอนแทคมันหนักหน่วง การเปล่งเสียงตะโกนยิ่งดังขึ้น บางครั้งบางคราก็มีการตะคอกเสียงด่าอย่างไม่มีเหตุผล การบันดาลโทสะแบบไร้เหตุผลนั้นถ้าเป็นยุคสมัยนี้ก็ถือว่าสอบตกกระมัง
 
  สาเหตุที่โทรวซิเย่เลือกใช้เวลากับเหล่านักเตะวัยรุ่นมากกว่านักเตะวัยเก๋าในทีมชุดใหญ่นั้นไม่ได้มีเหตุผลเรื่องที่พวกนักเตะวัยรุ่นมีทักษะมากกว่าเท่านั้น แต่เพื่อที่จะให้นักเตะเข้าใจกลยุทธ์และการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันให้ได้นั้น นักเตะเยาวชนที่ยังเป็นเหมือนแก้วใบเปล่านั้นจะใช้เวลาในการปรับตัวและทำความเข้าใจน้อยยิ่งกว่านักเตะวัยเก๋าแบบไม่อาจเทียบได้