Celeste y Branco(ชื่อเล่นของทีมชาติอาร์เจนติน่าแปลว่าจิตใจแห่งสีฟ้าขาว) จะมีการเคลื่อนไหวที่สั่นสะเทือนวงการกลับมาอีกครั้ง

  ล่าสุดในวันที่ 7 มีนาคมตามเวลาท้องถิ่น ทีมชาติอาร์เจนติน่าได้ประกาศนักเตะ 31 คนที่จะลงสู้ศึกกับทีมชาติเวเนซูเอล่า ซึ่งในรายชื่อดังกล่าวนั้นมีลีโอเนล เมสซี่ ดาวยิงสูงสุดของทีมชาติอาร์เจนติน่าแห่งสโมสรบาร์เซโลน่าที่จะกลับมาเล่นให้ทีมชาติอีกครั้งในรอบ 265 วัน

  นี่คือการคัมแบ็คที่เฝ้ารอมาเนิ่นนาน นับตั้งแต่ที่เมสซี่เล่นรับใช้ทีมชาติมาอย่างยาวนานถึง 14 ปีนั้นเมสซี่ยังไม่เคยพาทีมชาติอาร์เจนติน่าคว้าแชมป์รายการใหญ่มาเลยสักครั้ง ซึ่งนั่นทำให้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย โดยในวันที่ 30 มิถุนายนในศึกฟุตบอลโลกรัสเซียของปีที่แล้ว ทีมชาติอาร์เจนติน่าก็ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยความพ่ายแพ้ต่อทีมชาติฝรั่งเศส ว่ากันว่านั่นคือการแข่งขันนัดสุดท้ายของเมสซี่ในฐานะนักเตะทีมชาติ

  นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทีมชาติอาร์เจนติน่าก็เล่นเกมอุ่นเครื่องไปแล้ว 6 นัด เกมรุกนำโดยศูนย์หน้าที่มีความหลากหลายทั้ง มาวโร อิคาร์ดี้, พาวโล ดีบาล่า, ลาวทาโร่ มาร์ติเนซและจิโอวานนิ ซิเมโอเน่ แต่กระนั้นเมสซี่ก็ยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจอยู่ดี ยังไม่มีใครที่สามารถอุดช่องโหว่ของการขาดหายไปของเมสซี่ได้เลย

  โดยทางกุนซืออย่างลิโอเนล สกาโลนี่ ผู้นำเมสซี่กลับมาได้ระบุว่า "เขากลับมาด้วยความแฮปปี้" พร้อมกับอธิบายเพิ่มเติมว่า
 

  "ผลลัพธ์ในฟุตบอลโลกนั้นเป็นอะไรที่สาหัสมาก เพราะฉะนั้นการตัดสินใจของเขาที่ตั้งใจจะวางมือนั้น พวกเราในฐานะทีมโค้ชจึงไม่สามารถที่จะบังคับเขาได้เลย เพียงแต่ว่าสไตล์การเล่นและสภาพของทีมในปัจจุบันนี้นั้นลีโอคงสังเกตเห็นเป็นอย่างดี พอผมได้พูดคุยกับเขาทางโทรศัพท์ไปเขาก็บอกว่าเขาแฮปปี้ดีและอยากจะลองกลับมาเล่นทีมชาติอีกครั้ง เนื่องจากลีโอต้องลงเล่นให้กับบาร์ซ่าในหลายรายการมาก เพราะฉะนั้นเขาคงกลับมาได้สัก 1 ใน 2 นัดล่ะมั้ง"

  การกลับมาของเสาหลักผู้เป็นศูนย์รวมจิตใจของทีมชาติอาร์เจนติน่านั้น ทำให้สื่อใหญ่อย่าง Ole พาดหัวข่าวว่า "ชายที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกหวนกลับมา" ด้วยความคาดหวัง

  "เมสซี่ห่างหายจากทีมชาตินานถึง 265 วัน การหายไปของเขาที่จะว่าเหมือนนานแต่ก็เหมือนสั้นนั้นในที่สุดก็สิ้นสุดลงแล้ว ไม่มีอะไรเป็นข่าวดียิ่งไปกว่าการที่เมสซี่จะได้กลับมาเล่นให้กับทีมชาติอีกครั้ง เมสซี่เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกที่หาใครมาเทียบเคียงไม่ได้ การที่เมสซี่ตัดสินใจกลับมาด้วยตัวเองเพื่อมาเล่นให้กับทีมชาติที่เรียนรู้จากข้อผิดพลาดมานั้นเป็นอะไรที่แสนวิเศษเหลือเกิน

  นักเตะทีมชาติรุ่นนี้นั้นมีจำนวนผู้เล่นที่ยังอ่อนประสบการณ์เยอะอยู่ เพราะฉะนั้นการที่สุดยอดดาวซัลโวแห่งสโมสรบาร์ซ่าจะกลับมาชักนำทีมได้นั้นต้องเป็นอิทธิพลดีต่อพวกเขาเหล่านั้นอย่างไม่ผิดแน่ มั่นใจได้เลยว่าเมสซี่ต้องร่วมมือกับพรรคพวกหน้าใหม่เพื่อไขว่คว้าหาถ้วยรางวัลในฐานะทีมชาติที่ยังไม่ได้มาครอบครองให้ได้อย่างแน่นอน"

  วันที่ 22 มีนาคมนี้ทีมชาติอาร์เจนติน่าจะสู้กับเวเนซูเอล่าที่มาดริด ส่วนในวันที่ 27 จะเจอกับโมรอคโคที่ Marrakesh ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าเมสซี่จะโชว์ฟอร์มการเล่นแบบไหนออกมา ทุกสายตาของโลกหันกลับมาจับจ้องที่ตัวของเมสซี่อีกครั้ง