วันที่ 5 ธันวาคมตามเวลาท้องถิ่น ราชันชุดขาวเรอัลมาดริดเปิดบ้านรับการมาเยือนของสโมสรอาแย็กซ์อามสเตอร์ดัมในศึก UEFA CHampions League เลกที่ 2 ของรอบตัดเชือกรอบแรก ผลการแข่งขันจบลงที่เจ้าถิ่นพ่ายคาบ้านด้วยสกอร์ 1-4 ผลการแข่งขันรวม 2 นัดเป็น 3-5 ทำให้ราชันชุดขาวต้องตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในบ้านของตัวเองท่ามกลางแฟน ๆ ที่ชมการแข่งขันอยู่ในสนามแล้วมีน้ำตาไหลออกมา

  อันที่จริงแล้วฤดูกาลนี้ของเรอัลมาดริดนั้นก็ทุลักทุเลเหลือเกิน พ่ายคาบ้านต่อบาร์เซโลน่าทั้งเกมในลีกและศึกชิงถ้วยมา 2 นัดติด ก็เลยคาดการณ์กันว่าความหวังเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ของมาดริดในฤดูกาลนี้นั้นก็คือการคว้าถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ลีกมาครองให้ได้

  แต่การแพ้ไปถึง 4 ประตูที่สนามซานติอาโก้เบอร์นาบิวนั้นก็กลายเป็นเรื่องช็อกโลก ซึ่งข้อมูลตัวเลขจากทางเว็บไซต์ Opta ที่เป็นข้อมูลจากทางการของ UEFA นั้นก็ยิ่งแสดงความน่าตื่นตะลึงอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

  ตัวเลขแรกสุดนั้นคือการเสียประตู 2 ลูกภายใน 18 นาที ซึ่งเป็นสถิติการเสียประตูที่รวดเร็วที่สุดในเกมเหย้าของศึกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกของเรอัลมาดริดไปแล้ว นอกจากนั้นในฤดูกาลก่อนมาดริดไม่เคยพ่ายทีมไหนในเกมยุโรปด้วยผลห่างเกิน 2 ประตูแม้แต่ครั้งเดียว ทว่าในฤดูกาลนี้มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น 2 ครั้ง สถิติรวมตามที่ทางเว็บไซต์ระบุนั้นคือ 6 ครั้ง นอกจากนั้นการพ่ายแพ้แบบนี้เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายในฤดูกาล 1950-1951 นั่นจึงหมายความว่านี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งในรอบ 68 ปี

  มิหนำซ้ำยังเป็นครั้งที่ 2 จากการเข้าร่วมศึกแชมป์เปี้ยนส์ลีกที่มาดริดชนะคู่ต่อสู้นอกบ้านในเลกแรกก่อนแล้วกลับมาพ่ายคาบ้านจนตกรอบ ครั้งแรกเกิดขึ้นในฤดูกาล 1994-1995 โดยเฉพาะหากนับตั้งแต่ก่อสร้างสนามซานติอาโก้เบอร์นาบิวขึ้นมานั้น ทีมที่มาดริดแพ้คาบ้านมีเพียงแค่ยูเวนตุสเท่านั้น เพราะฉะนั้นความพ่ายแพ้ในครั้งนี้จึงทำให้อาแย็กซ์เลื่อนชั้นมาเป็นผู้โค่นเรอัลมาดริดที่สนามเบอร์นาบิวเทียบเคียงยูเวนตุสโดยทันที

  สถิติที่แสนอัปยศนี้ยังไม่ได้มีเพียงเกมยุโรปเท่านั้น แต่การพ่ายคาบ้าน 4 นัดติดในเกมอย่างเป็นทางการของเรอัลมาดริดนั้นครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อปี 2004 หมายความว่า 15 ปีผ่านไปแล้วนั่นเอง

  ท่ามกลางสถิติที่แสนอัปยศของเรอัลมาดริดที่เกิดขึ้นใหม่นั้น ขณะนี้จ้าวแห่งยุโรปก็ร่วงลงจากบัลลังก์อย่างเป็นทางการเมื่อผ่านไป 1011 วัน ซึ่งทาง ESPN ได้รายงานบทสัมภาษณ์ดาเนียล การ์บาฆัลที่พูดคุยกับโทรทัศน์ท้องถิ่นหลังการแข่งขันจบลงว่า "ในสัปดาห์นี้พวกเราสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่บ้านของตัวเองไปแล้ว" เขาไม่อาจซุกซ่อนความผิดหวังได้เลย

  "ค่ำคืนนี้ไม่จำเป็นต้องมีข้อแก้ตัวทั้งนั้น ฝั่งตรงข้ามเขาเล่นดีกว่า พวกเขาแสดงให้เห็นถึงพลังที่จะบุกตะลุยทัวร์นาเมนต์นี้ไปได้

  มันชัดเจนมากเลยว่าฤดูกาลนี้สำหรับพวกเรามันจบลงแล้ว เพียงแต่ว่าพวกเราจำเป็นต้องทุ่มเทให้กับเกมลาลีก้าต่อไปอย่างสมกับเป็นมืออาชีพ ฤดูกาลนี้มันเฮงซวยมาก ของแบบนี้มันก็เห็นกันชัด ๆ ไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังอะไรทั้งสิ้น นี่คือสภาพความเป็นจริง นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมรู้สึกแย่แบบนี้ มันอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลยครับ"

  ราชันชุดขาวที่ไม่สามารถรักษาแชมป์ยุโรปสมัยที่ 4 ได้นั้น หลังจากตกรอบศึก Copa del Rey แล้ว ตอนนี้ก็ตกรอบแชมป์เปี้ยนส์ลีก ส่วนโอกาสจะคว้าแชมป์ลาลีก้าในปัจจุบันนั้นก็ยากเต็มทน มีความเป็นไปได้ว่าบางทีฤดูกาลนี้มาดริดอาจจะจบลงโดยที่ไม่สามารถคว้าถ้วยรางวัลอะไรได้เลย

  ตอนนี้เสียงวิพากย์วิจารณ์ว่า "สิ้นสุดยุคสมัย" ของเรอัลมาดริดดังเซ็งแซ่ขึ้น แฟน ๆ ท้องถิ่นก็เริ่มเรียกร้องให้ประธานสโมสรอย่างฟลอเรนติโร่ เปเรซทำการลาออกแล้วด้วย

  ดูเหมือนว่าสภาพของเรอัลมาดริดที่ยังทุลักทุเลแบบนี้นั้น คงไม่สามารถแก้ไขได้โดยง่ายจริง ๆ