วันที่ 17 มกราคม การแข่งขันนัดสุดท้ายในรอบกรุ๊ปสเตจของศึกอาเชียนคัพเป็นอันจบลง ผลการจับคู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายออกมาอย่างเป็นทางการ

  นัดสุดท้ายในรอบกรุ๊ปสเตจทีมชาติญี่ปุ่นที่หวังจะคว้าแชมป์สมัยที่ 5 มาครองให้ได้นั้นเอาชนะอุซเบกิสถานไปด้วยผลการแข่งขัน 2-1 คว้าตำแหน่งจ่าฝูงของกรุ๊ป F ซึ่งทีมที่จะเจอในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนั้นคือทีมซาอุดิอาราเบียที่ได้อันดับ 2 ของกรุ๊ป E

  สำหรับทีมชาติซาอุดิอาราเบียนั้น ในนัดแรกของรอบกรุ๊ปสเตจเอาชนะทีมเกาหลีใต้ไป 4-0 และชนะเลบานอน 2-0 จึงทำให้เป็นการการันตีการเข้ารอบต่อไปของทัวร์นาเมนต์เป็นที่เรียบร้อย ทว่าในนัดสุดท้ายเมื่อวันที่ 17 นั้นแพ้กาตาร์ไปด้วยสกอร์ 0-2 จึงทำให้ได้อันดับ 2 ของกลุ่มไปแทน

  ผลลัพธ์ดังกล่าวนั้นจึงทำให้กุนซือของทีมซาอุอย่าง Juan Antonio Pizzi ออกมาพูดว่า "ผมจำเป็นต้องอดกลั้นความรู้สึกในตอนนี้เอาไว้เพื่อเตรียมตัวสู่การแข่งขันนัดต่อไป แม้ผมจะเคารพในทีมญี่ปุ่นที่จะได้เจอกันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายก็ตาม แต่ผมก็ไม่คิดว่าพวกเราด้อยกว่าแต่อย่างใด" คำพูดของตัวกุนซือนั้นคือสิ่งที่บ่งบอกเป็นอย่างดีว่าเขาเตรียมพร้อมในการสู้รบมากขนาดไหน

  ญี่ปุ่นกับซาอุดิอาราเบียนั้นเคยเจอกันมาก่อนแล้วถึง 13 ครั้ง เป็นทางฝั่งของญี่ปุ่นที่มีสถิติดีกว่าด้วยชัยชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 4 โดยในการแข่งขันนัดสุดท้ายของรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกโซนเอเชียเมื่อปี 2018 นั้น ทีมชาติญี่ปุ่นก็บุกเอาชนะซาอุถึงดิ่นด้วยผลการแข่งขัน 0-1

  หากทีมชาติญี่ปุ่นเอาชนะซาอุดิอาราเบียได้ล่ะก็ ในนัดต่อไปจะเจอกับผู้ชนะระหว่างจอร์แดนและเวียดนาม แล้วถ้าผ่านได้อีกรอบ ในรอบรองชนะเลิศก็จะเจอทีมใดทีมหนึ่งจากอิหร่าน โอมาน ไทยและจีน เรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันที่ญี่ปุ่นอยากจะทะลุไปทุกรอบให้ได้

  ส่วนอีกฟากหนึ่ง ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าทีมอย่างเกาหลีใต้ ออสเตรเลีย กาตาร์และสาธารรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่มีกุนซือ Alberto Zaccheroni ที่เคยคุมทีมชาติญี่ปุ่นมาก่อนนั้นจะสามารถผ่านรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปได้หรือไม่ การแข่งขันอีกสายนั้นบอกได้เลยว่าไม่สามารถคาดเดาได้จริง ๆ ว่าชาติไหนจะไปถึงรอบชิงชนะเลิศกันแน่