สโมสรเรอัลมาดริดคว้าแชมป์คลับเวิล์ลคัพ 3 สมัยต่อเนื่องจนกลายเป็นสถิติใหม่สูงสุดที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ทว่าหลังจากนั้นกลับมี "เหตุการณ์หนึ่ง" ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดคาดฝัน

  การแข่งขันศึกคลับเวิร์ลคัพนัดชิงชนะเลิศในวันที่ 22 ธันวาคมตามเวลาท้องถิ่น สโมสรเรอัลมาดริดที่เจอกับ Al Ain FC ของประเทศเจ้าภาพนั้น ลูก้าโมดริชทำประตูนำให้ทีมก่อนในนาทีที่ 14 จากนั้นนาทีที่ 60 มาร์คอส ลอเรนเต้ก็ทำประตูเพิ่มให้ได้ กัปตันทีมเซร์ฆิโอ้ รามอสทำประตูเพิ่มได้ในนาทีที่ 78 แล้วก็การทำเข้าประตูตัวเองของฝั่งตรงข้ามในนาทีที่ 91

  ชิโอทานิ สึคาสะ ของทีม Al Ain นั้นทำประตูตีไข่แตกได้ 1 ลูกในช่วงท้ายเกม แต่กระนั้นการแข่งขันก็จบลงโดยทีมาดริดคว้าชัยชนะไปอย่างถล่มทลายด้วยผลประตู 4-1 เรอัลมาดริดคว้าแชมป์สโมสรโลกไปครอง 3 สมัยต่อเนื่อง

  ประเด็นที่กลายเป็นที่วิพากย์วิจารณ์ของทีมราชันชุดขาวนั้นเกิดขึ้นหลังจบการแข่งขันนัดชิง จากข้อมูลของ Marca ระบุว่า หลังจบการแข่งขันหลังจากที่นักเตะทั้งสองสโมสรกำลังจับมือกัน กองหน้าทีมชาติสเปนอย่างลูคัส วาสเควซเปิดศึกปะทะคารมกับลูก้า โมดริชห้องเครื่องของทีมเข้าให้
 

  โดยทางสื่อของสเปนอย่าง El Espanol ออกมารายงานถึงคำพูดระหว่างนักเตะทั้งสองว่า "ตอนแรกก็เล่นมุกกันขำ ๆ เท่านั้น แต่หลังจากนั้นจู่ ๆ ก็ร้อนกันทั้งคู่ กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจเหลือเกิน" พร้อมกับระบุข้อความของนักเตะทั้งสองคนว่า

ลูคัส วาสเควซ "ส่งบอลมาสิ! ไอ้ห่วยโครเอเชียนี่!"
โมดริช "แล้วไงล่ะ เห็นนั่นหรือยัง? จะให้ทำยังไงล่ะ?"

  เมื่อเพื่อน ๆ นักเตะเห็นบรรยากาศรอบข้างที่อึมครึมก็รีบเข้าไปรวมตัวกันทันที ซึ่งทาง Marca ก็ระบุว่า "ถึงแม้จะไม่ทราบว่าระหว่างทั้ง 2 คนมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น แต่จากสิ่งที่แสดงออกมาก็น่าจะเป็น "การปะทะคารม" อย่างไม่ผิดแน่นอน" พร้อมกับเผยภาพในวินาทีที่เกิดเรื่องขึ้นมา

  แม้จะไม่ทราบว่ามีเหตุอะไรเกิดขึ้นที่ทำให้ลูคัส วาสเควซต้องตะโกนหาเรื่องโมดริชขนาดนั้น แต่ท่ามกลางใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มของเพื่อนฝูงนั้น "ความแค้นเคือง" ของทั้งสองก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ แน่นอนว่าแฟน ๆ ของทีมชุดขาวนั้นต้องรู้สึกไม่สบายใจอย่างแน่นอน