หนึ่งในการแข่งขันที่คนทั้งโลกร่วมจับตามอง การแข่งขันนัดที่ 17 ของพรีเมียร์ลีค ศึกแดงเดือดลิเวอร์พูลปะทะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา การแข่งขันในหนนี้จบลงด้วยชัยชนะของสโมสรลิเวอร์พูลด้วยผลคะ 3-1 จบการแข่งขันด้วยเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจของแฟนเจ้าถิ่นที่แอนฟิลด์

  ก่อนการแข่งขันนัดนี้จะเริ่มต้นขึ้น ทางลิเวอร์พูลได้อัพภาพไฮไลท์ศึกแดงเดือดหลาย ๆ นัดที่เคยมีมา โดยท่ามกลางคลิบต่าง ๆ นั้น ไฮไลท์ที่โดดเด่นที่สุดก็เป็นศึกแดงเดือดในวันที่ 25 ตุลาคมที่เป็นประตูสุดสวยงามของอดีตนักเตะทีมชาติสเปนที่ปัจจุบันนี้อยู่กับสโมสรซากันโทสุ เฟอร์นันโด ตอร์เรสนั่นเอง ในวันนั้นเขาเพิ่งอายุ 25 ปี เขาได้กลายเป็นหัวหอกคนสำคัญของสโมสรลิเวอร์พูลที่ไม่อาจมีใครมาเทียบเคียงได้

  การแข่งขันในนัดนั้น คะแนนยังเสมอกันที่ 0-0 จนถึงนาทีที่ 65 แต่แล้วยอชชี่ เบนายูนมิดฟิลด์ทีมชาติอิสราเอลก็จ่ายทะลุให้กับตอร์เรส ซึ่งทางตอร์เรสก็ลากลูกแล้วก็กดด้วยเท้าขวาเข้าประตูไปอย่างไม่สนใจกองหลังทีมชาติอังกฤษอย่างริโอ เฟอร์ดินานด์ที่เข้ามาขวางกั้น การแข่งขันในวันนั้นจบลงด้วยที่ชัยชนะของสโมสรลิเวอร์พูลที่คะแนน 2-0 ซึ่งทางทวิตเตอร์ของสโมสรลิเวอร์พูลได้อัพว่า "แข็งแกร่ง ว่องไว เฉียบคม นี่คือประตูของเฟอร์นันโด ตอร์เรสในศึกแดงเดือดที่ไม่มีทางลืม" นั่นเอง

 

  หลังจากเผยแพร่คลิบไฮไลท์ดังกล่าวนั้น ผ่านไป 24 ชั่วโมงก็มียอดกดไลค์ทะลุเกิน 150,000 ครั้งแล้ว ส่วนคอมเมนต์ก็ทะลุไปเกิน 1,000 โพสต์ "เขายิงประตูสุดสวยเยอะจนนับไม่ได้เลย" "ช่างเป็นประตูแนวตอร์เรสจริง ๆ" "งานดีเหลือเกิน" "เป็นลูกยิงที่เจิดจรัสมาก" เป็นต้น นอกจากนั้นยังพูดถึงทรงผมบลอนด์ทองที่ไว้ยาวของตอร์เรสในสมัยนั้นด้วยว่า "ขุนนางหนุ่มที่แสนหล่อเหลา!" "สไตล์ดีเหลือเกิน" "ราวกับเป็นนายแบบ" การชมเรื่องรูปลักษณ์ของตอร์เรสนั้นก็ไม่ได้มีน้อยเลย

  แต่อีกฟากหนึ่งก็ยังมีเสียงของแฟน ๆ ที่ผิดหวังจากการที่ตอร์เรสย้ายไปเล่นให้กับเชลซีด้วย "ถ้าเขายังอยู่ต่อต้องกลายเป็นตำนานไปแล้ว..." "ทำไมถึงย้ายออกด้วยล่ะ?" "ก็ถูกเงินล่อลวงเยอะขนาดนั้น คือเขาก็ไม่ได้ผิดอะไรหรอกนะ" เป็นต้น แต่ถึงอย่างไรก็ดีลูกยิงประตูสุดสวยของตอร์เรสนั้นแม้จนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงสลักอยู่ในหัวใจของแฟน ๆ ลิเวอร์พูลเหมือนเดิม

  ผลงานของตอร์เรสในฤดูกาลนี้กับเจลีคนั้น เขาลงเล่น 17 นัดทำไป 3 ประตู เมื่อผ่านพรีซีซันไปแล้วก็ได้แต่คาดหวังว่าตอร์เรสจะระเบิดฟอร์มทำประตูกระจุยกระจายออกมาในฤดูกาลหน้านั่นเอง