การทำประตูโดยผู้รักษาประตูที่หาดูได้ยากในเกมสุดดราม่าระหว่างชิมิซุกับโกเบนั้นได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลาม

  ทางกองบรรณาธิการ J-League ได้คัดเลือกประตูยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ของเกมการแข่งขันที่ผ่านมาในวันที่ 23-25 พฤศจิกายนทั้งใน J1-J3 จำนวนทั้งหมด 10 ประตู
  ซึ่งอันดับ 1 คือการทำประตูจากลูกโหม่งโดยผู้รักษาประตูของชิมิซุ "โรคุทัน ยูจิ" นั่นเอง

  ครั้งสุดท้ายที่มีการทำประตูเกิดขึ้นโดยผู้รักษาประตูนั้นต้องย้อนกลับไปที่ปี 1996 โดยฝีมือของ ทาคิตะ ยูกิ(อุราวะ) ซึ่งเกมในนัดนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงต่อเวลาการแข่งขันพิเศษ แม้ป้ายในสนามจะแสดงตัวเลขนาทีที่ 4 ก็ตาม ทว่าในความเป็นจริงเวลาผ่านไปถึง 13 นาทีเนื่องจากมีผู้เข้าแข่งขันได้รับบาดเจ็บ
  ขณะนั้นคะแนนยังคงอยู่ที่ 2-3 ชิมิซุตามหลังโกเบอยู่ 1 ลูก ซึ่งในตอนนั้นเองที่ทางฝั่งชิมิซุได้ลูกเตะมุม แล้วก็เป็นการโหม่งเข้าประตูโดยโรคุทันจนทำให้สกอร์ตีเสมอกลับมาที่ 3-3 ได้

  ทว่าหลังจากนั้น Wellington ก็ถูกใบเหลืองใบที่ 2 จากการเล่นรุนแรงจนไล่ออกจากสนามไป ส่วนทางโรคุทันก็เป็นหนึ่งในคู่กรณีที่เข้าไปก่อเหตุชุลมุนในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ท้ายที่สุดแล้วการแข่งขันก็จบลงด้วยความร้อนแรง จึงทำให้มีข้อกังหาว่าประตูโดยผู้รักษาประตูในรอบ 22 ปีที่ทำได้โดยโรคุทันนั้นควรค่าที่จะได้รับการยกย่องหรือไม่

  อันดับ 2 เป็นฝีมือของโอซาโกะ โนโซมุ แห่งสโมสรฟุจิเอดะใน J2 ลูกยิงของเขานั้น "ไม่ธรรมดา" ที่ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับ "โอซาโกะ ยูยะ ผู้ไม่ธรรมดา" ที่ได้รับฉายาดังกล่าวก็ว่าได้ เขาทำการวอลเลย์อัดลูกยิงตรงที่ส่งมาจากการเตะมุมจนตุงตาข่ายอย่างงดงาม
  อันดับ 3 คือลูกยิงนอกกรอบเขตโทษของ นากายามะ ยูตะแห่งคาชิวะที่ถูกโหวตเป็น Best 5 Goal ที่ดีที่สุดประจำสัปดาห์นี้ของ DAZN 
  อันดับ 4 คือลูกยิงหลังพลิกกระชากโดยเฟอร์นันโด ตอร์เรสที่โชว์ความสามารถเฉพาะตัวออกมาอย่างโดดเด่น
  อันดับ 5 คือลูกยิงแสกหน้าผู้รักษาประตูของ ฟูจิตะ นาโอยูกิ ที่อิเนียสต้าเป็นคนจ่ายต่อให้อย่างสุดอัจฉริยะ

  อันดับต่อจากนั้น อันดับ 6 เป็นของ ฮาเซกาวะ ทัตสึยะ (คาวาซากิ) อันดับ 7 เป็นของ มิโยชิ โคจิ (ซัปโปโร) อันดับ 8 เป็นของโจ (นาโกย่า) อันดับ 9 เป็นของนากาฮาระ ชูโตะ (คาโกชิมะ) และอันดับ 10 เป็นของอุเมซากิ สึคาสะ (โชนัน)

  การแข่งขันเจลีคนัดสุดท้ายจะจบลงในสัปดาห์นี้คือวันที่ 1 ธันวาคม จากนี้ไปต้องจับตาดูลูกสุดสวยในนัดสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นให้ได้เลย