สำหรับจูเลน โลเปเตกีนั้น กล่าวได้เลยว่าปี 2018 ไม่ใช่ปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขาในฐานะกุนซือเลยก็ว่าได้

  ก่อนที่จะนำทีมชาติสเปนเข้าสู่ฟุตบอลโลกที่รัสเซียนั้น ก็มีการประกาศว่าหลังจบทัวร์นาเมนต์นี้เขาจะเข้าไปคุมสโมสรเรอัลมาดริด เลยทำให้ทางสมาพันธ์ฟุตบอลสเปนรู้สึกฉุนขาดจึงสั่งปลดเขาอย่างสายฟ้าแลบโดยทันที

  แม้เขาจะรู้สึกผิดหวัง แต่ก็ตั้งใจจะปั้นสโมสรเรอัลมาดริดด้วยความรู้สึกใหม่ ทว่าการเดินทางของเขาก็จบลงเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น นอกจากจะพ่ายแอตเลติโก มาดริดใน UEFA Super Cup ผลงานของในลาลีก้านับตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมาก็อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่

  ท้ายที่สุดแล้ว นับตั้งแต่นำทีมพ่ายบาร์เซโลน่าอย่างถล่มทลายถึง 1-5 ในศึก El Clasico วันที่ 28 ตุลาคม วันต่อมาโลเปเตกีผู้คุมทีมมาดริดอยู่อันดับ 9 ของตารางนั้นก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมโดยทันที

  และไม่เพียงเท่านั้น ล่าสุดสื่อของอเมริกา Sports Illustrated ก็รายงานว่า ช่วงเวลาแห่งความหนาวเหน็บของโลเปเตกียังดำเนินต่อไป นั่นก็เพราะมีรายงานระบุออกมาว่า ทางโลเปเตกีที่ไปเสนอตัวคุมทีมชาติอเมริกานั้นถูกปฏิเสธกลับมานั่นเอง ซึ่งทางสื่ออื่นก็รายงานว่า "นี่คือความระทมของโลเปเตกี"

  ทว่าเอเยนต์ของโลเปเตกีก็ออกมาปัดข่าวของทาง Sports Illustrated ว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งทาง EPSN รายงานเรื่องนี้ว่า "ข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้อง" เขากล่าวปฏิเสธว่าไม่มีการติดต่อใด ๆ กับทางสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาโดยทั้งสิ้น

  "จูเลนไม่ได้ไปทำการนำเสนอที่ไหนอยู่แล้ว หลังจากที่เขาถูกปลดออกมาจากมาดริดนั้นเวลาก็เพิ่งผ่านไปไม่นาน นี่คือช่วงเวลาหยุดพักเพื่อฟื้นฟู จากนั้นค่อยเริ่มคิดทบทวนถึงเป้าหมายใหม่ในภายหลัง"

  โลเปเตกีผู้พบกับความสิ้นหวังในการคุมสองทีมใหญ่ ต้องมาดูกันต่อไปว่าความท้าทายใหม่ของเขาจะเป็นอะไรกันแน่