วันที่ 15 พฤศจิกายนตามเวลาท้องถิ่น เวย์น รูนีย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษผู้ลงเล่นให้กับทีมสิงโตคำรามมาตั้งแต่ปี 2003 ยาวนานมาจนถึง 15 ปีนั้นก็ทำการประกาศอำลาทีมชาติอย่างเป็นทางการกับเกมกระชับมิตรที่เจอกับอเมริกา

  การแข่งขันในนัดนี้เป็นการแข่งขันการกุศลของมูลนิธิเวย์น รูนีย์ จึงทำให้รูนีย์ได้กลับมาลงเล่นอีกครั้งและเป็นครั้งสุดท้าย เขาถูกส่งเข้ามาในนาทีที่ 58 แทนที่เจสซี่ ลินการ์ด รุ่นน้องในสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด รูนีย์ได้รับการส่งมอบปลอกแขนกัปตันทีมและสวมเสื้อหมายเลข 10 ตัวเดิมนั้น เขาทำการปลดล็อคการรับใช้ทีมชาตินัดสุดท้ายที่นัดที่ 120 นี้เอง

  หลังการแข่งขันจบลงรูนีย์ที่ร้องไห้น้ำตานองในห้องแต่งตัวให้สัมภาษณ์ว่า "นี่จะกลายเป็นค่ำคืนที่ผมไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิตเลย" 

  ทาง BBC จึงทำสกู๊ปข่าวเกี่ยวกับการ "อำลาทีมชาติของนักเตะระดับตำนาน" ออกมา เลยทำให้บทความในคราวนี้จะโฟกัสถึงตัวนักเตะระดับตำนานในการแข่งขันนัดสุดท้ายของเขากับทีมชาติกัน

  รายแรกที่จะทำการแนะนำให้รู้จักกันก่อนนั้น คือมิดฟิลด์ห้องเครื่องสุดอัจฉริยะประจำทีมชาติฮอลแลนด์ เวสลีย์ ชไนเดอร์นั่นเอง

  ชไนเดอร์เริ่มต้นครั้งแรกตอนอายุ 19 ปีเมื่อปี 2003 เขาทำการเตะนัดสุดท้ายในฐานะ "อัศวินสีส้ม" ในวันที่ 6 กันยายนของปีนี้ที่สนาม Johan Cruijiff Arena ณ กรุงอัมสเตอร์ดัม เขาคือนักเตะที่ผ่านทั้งความสุขและความเศร้ามาอย่างมากมาย

  สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ในงานนี้คือพิธีหลังการแข่งขันที่จบลง มีการนำโซฟาและทีวีมาวางที่บนสนามแล้วทางชไนเดอร์และครอบครัวมาร่วมกันนั่งดูวีดีโอภายในโทรทัศน์ตัวนั้น ซึ่งสิ่งที่เผยแพร่ออกมาภายในโทรทัศน์คือข้อความจากเพื่อนสนิทอย่าง อาร์เยน รอบเบน นั่นเอง

  BBC ระบุว่า "คงรู้สึกสบายไม่น้อยเลย นั่งโซฟาอยู่กลางสนามแล้วดูวีดีโอราวกับว่า "อยู่ในห้องนั่งเล่น" พร้อมกับฟังถ้อยคำของเหล่าพรรคพวก"

  ต่อจากชไนเดอร์ก็เป็นศูนย์หน้าทีมชาติเยอรมันซึ่งปัจจุบันนี้เล่นให้กับสโมสรวิสเซลโกเบอย่างลูคัส โพโดลสกี้

  หลังจากโพโดลสกี้อยู่ในทีมชุดใหญ่ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ในปี 2014 เขาจึงทำการอำลาการเล่นรับใช้ทีมชาติในเดือนมีนาคมเมื่อปีก่อนซึ่งเป็นเกมที่เจอกับทีมชาติอังกฤษ มิหนำซ้ำในนัดนั้นโพโดลสกี้ก็ยังทำประตูได้จากลูกยิงนอกกรอบอย่างสุดสวยอีกด้วย

  ทาง BBC ได้กล่าวถึงการอำลาทีมชาติของโพโดลสกี้ที่จบลงอย่างแสนสวยงามว่า

  "โพโดลสกี้กล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าแฟน ๆ ที่เฝ้ารออยู่ในสนามอย่างมากมายเลยทำให้การเขี่ยลูกเริ่มเล่นช้าออกไปเล็กน้อย จนกระทั่งหลังจบการแข่งขัน ภายในสนามก็เปิดเพลงประกอบของภาพยนตร์เรื่อง Gladiator พร้อมกับเหล่าผู้ชมที่ลุกขึ้นปรบมือกันทั้งสนามอย่างดังกึกก้อง ถือเป็นการอำลาการค้าแข่งอย่างสง่างามและสดุดีต่อผู้มีชัย"