อิเนียสต้า "กลายเป็นซาบี" ในถิ่นโกเบ ความแตกต่างด้านตำแหน่งกับสมัยบาร์ซ่านั้นจะเป็นผลอะไรหรือไม่?

2018年10月22日 白鳥大知(ワールドサッカーダイジェスト)

อิเนียสต้ามักจะอยู่หลังแนวบอลเสมอ

อิเนียสต้าลงมาปั้นเกมในเขตที่ถอยลงมาจากเดิมเหมือนดังกับซาบีเมื่อหลายปีก่อน

ภาพโดย: Soccer Digest Photo Team

  อังเดรส อิเนียสต้านั้น ภาพลักษณ์ของเขาคือมิดฟิลด์ตัวรุกที่แสนดุดันของบาร์เซโลน่า

  แม้จะมีบางครั้งที่เล่นเป็นปีกซ้ายหรือมิดฟิลด์ตัวพักบอลบ้างก็ตาม แต่ในยุคทองของเขานั้นเขาคือจ้าวแห่งมิดฟิลด์ฝั่งซ้าย พอประสานงานกับซาบีที่อยู่ฝั่งขวาและมิดฟิลด์ตัวกลางอย่างเซร์ฆิโอ บุสเกตส์ ไปแล้วนั้นก็กลายเป็น "สามเหลี่ยมทองคำ" ในเกมรุกนั้นอิเนียสต้าจะบุกขึ้นหน้าเพื่อทำลายแนวรับของศัตรูด้วยความเร็วในการวิ่งสองจังหวะเพื่อรุกรานแดน 30 เมตรสุดท้ายของฝั่งตรงข้ามและคอยจ่ายบอลให้กับเพื่อนเพื่อสร้างสรรค์เกมรุกที่หลากหลาย บุสเกตส์จะเป็นตัวปรับสมดุล ส่วนซาบีจะเป็นเพลย์เมคเกอร์ เรียกได้ว่านั่นคือการทำให้อิเนียสต้าเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกได้ด้วยระบบสามประสานแดนกลางเช่นนั้น

  ทว่าการแข่งขันวันที่ 20 ตุลาคมที่วิสเซลโกเบต้องบุกไปเยือนคาวาซากิฟรอนเทลนั้น ภาพลักษณ์ของอิเนียสต้าเมื่อวันวานแทบไม่มีเหลือเลย แม้ตำแหน่งยืนจะเหมือนเดิมก็ตาม แต่เมื่อมีการปั้นเกมรุกขึ้นมานั้นอิเนียสต้าก็อยู่ในเส้นท้ายสุดของมิดฟิลด์ร่วมกันกับมิดฟิลด์ตัวพักบอลอย่างฟุจิตะ นาโอยูกิและคอยโยกย้ายไปมาซ้ายขวาหน้าหลัง มิหนำซ้ำเมื่อทีมทำเกมทะลวงบุกเข้าไปได้ อิเนียสต้าก็ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในแดน 30 เมตรสุดท้ายอีกด้วย เขาแทบจะอยู่แนวหลังบอลเสมอ จนกระทั่งเมื่อแนวรุกอยู่ในทางตันค่อยทำการเป็นตัวเชื่อมเกมใหม่ กล่าวได้ว่าบทบาทในตอนนี้เหมือนดั่งหน้าที่ของซาบีที่ทำตอนอยู่กับบาร์ซ่าเลย

  กระทั่งเมื่อในปี 2015 ที่ซาบีออกไปจากถิ่นของบาร์เซโลน่านั้น จริงอยู่ที่อัตราการจ่ายบอลลดลงก็ตาม แต่อิเนียสต้าก็ไม่ได้ลงไปเล่นต่ำถึงขนาดนั้นเลย จึงพูดได้ว่าตัวของอิเนียสต้าในตอนนี้กับสโมสรวิสเซลโกเบนั้น "กลายเป็นซาบี" ไปแล้วโดยนั่นเอง ซึ่งนั่นคือแผนที่กุนซือลิลโล่ที่เข้ามาคุมทีมในวันที่ 17 กันยายนมอบหมายให้อังเดรส อิเนียสต้าเพื่อเป็นกุญแจสำคัญในการแปลงสภาพโกเบให้กลายเป็นทีมเน้นครบอครองบอลและทำเกมรุกเหมือนดั่งเช่นบาร์เซโลน่า
 
  แม้ในครึ่งแรกแม้จะโดนทำประตูออกนำด้วยลูกโทษไปก่อนก็ตาม แต่เกมรุกที่มีอิเนียสต้าเป็นแกนนำนั้นก็ทำให้ทีมไล่ตีกลับขึ้นมาได้ถึง 3 ลูก โดยลูกแรกนั้นเป็นการทำเข้าประตูของตัวเอง ลูกที่สองที่ฟุรุฮาชิ เคียวโกทำนั้นก็เกิดจากการเชื่อมบอลที่เริ่มต้นโดยอิเนียสต้าจากแดนกลาง หลังจบการแข่งขันเจ้าตัวก็ยังบอกว่า "ทีมสามารถทำได้ดีจนถึงช่วงประมาณนาทีที่ 65-70" ส่วนทางฟุจิตะก็พูดว่า "อิเนียสต้าครองบอลนิ่งมาก ก็สมแล้วจริง ๆ"

  แต่เมื่อเข้าสู่ครึ่งหลังแล้ว นักเตะแต่ละคนเท้าก็แข็งและไม่สามารถกดดันหนักเหมือนครึ่งแรกได้ ตัวของอิเนียสต้าและนักเตะโกเบนั้นไม่สามารถครอบครองบอลได้อีกต่อไป การครอบครองบอลตกลงมาอยู่ที่ 45.8% ที่ลดลงมาจากในครึ่งแรกเยอะมาก จำนวนการจ่ายลูกเหลือ 527 จาก 625 และอัตราจ่ายสำเร็จเหลือ 85.6% จาก 91.5% จนสุดท้ายก็พ่ายแพ้กลับบ้านไปที่ประตู 3-5
  

次ページนี่คือดาบสองคมอย่างชัดเจน

แชร์กับเพื่อนๆ
Twitterで更新情報配信中

関連記事