ฮิโรชิมะทรุดหนัก ไม่ชนะใครมา 5 นัดติด... วิเคราะห์สาเหตุจาก "สายตาคู่แข่ง"

2018年10月22日 前島芳雄

เหล่านักเตะชิมิซุไม่รู้สึกเกรงกลัวเกมรุกของฮิโรชิมะเลยแม้แต่น้อย

3 นัดล่าสุดฮิโรชิมะไม่ชนะใครและไม่สามารถทำประตูได้เลยแม้สักลูก

ภาพโดย: โทคุฮาระ ทาคาโมโตะ

  ในการแย่งชิงตำแหน่งจ่าฝูงของ J1 นั้น ในฤดูกาลนี้ดูเหมือนว่าสโมสรฮิโรชิมะจะสามารถหยุดยั้ง Kawasaki Frontale ในการคว้าแชมป์สองสมัยติดได้ เพียงแต่ว่าในขณะนี้ฮิโรชิมะเริ่มทรุดหนัก การพ่ายแพ้นัดล่าสุดกับชิมิซุไปเป็นผลให้ทีมแพ้ 3 นัดต่อเนื่อง ตลอด 5 เกมที่ผ่านมาสะกดคำว่าชนะไม่เป็น และที่เลวร้ายไม่แพ้กันคือใน 450 นาทีของการแข่งขันมีประตูเกิดขึ้นเพียงแค่ลูกเดียว และชัยชนะของคาวาซากิต่อวิสเซลโกเบนั้นยิ่งทำให้คะแนนทิ้งห่างออกไปถึง 4 แต้ม
 
  สรุปแล้วอะไรมันเกิดขึ้นกับฮิโรชิมะในตอนนี้กันแน่
  แม้โดยส่วนตัวของผู้เขียนจะติดตามความเคลื่อนไหวของชิมิซุเป็นหลักและไม่ค่อยได้ติดตามผลงานของฮิโรชิมะโดยละเอียดก็ตาม แต่นี่ก็จะเป็นบทความในมุมมองด้วยตาเปล่า เป็นการมองว่าในฐานะคนที่อยู่ฝั่งชิมิซุนั้นมองเห็นสภาพของฮิโรชิมะในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
  

  ฮิโรชิมะในฤดูกาลนี้ "เริ่มต้นด้วยการทำเกมรับให้เข้มแข็ง" ตามคำพูดที่กุนซือโจฟุคุกล่าวเอาไว้ เลยทำให้ผู้เล่นแดนหน้าทำการรุกกดดันหนักอยู่เสมอ เกมแดนกลางเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เกมริมเส้นเคลื่อนไหวไปมา ถือว่าเป็นการผนึกการส่งลูกจ่ายไปมาอย่างอิสระเสรีของชิมิซุเอาไว้ก็ว่าได้ ซึ่งนั่นก็เป็นผลให้ชิมิซุไม่สามารถควบคุมบอลได้ถนัดนัก เลยทำให้ชิมิซุไม่สามารถพาบอลไปด้านหน้าได้เท่าไร มีแต่โยนบอลยาวไปจนถึงปากฝั่งประตูอยู่หลายครั้ง โอกาสการยิงทำประตูในครึ่งแรกมีเพียงแค่ 2 ครั้ง ถ้ารวมครึ่งหลังด้วยก็กลายเป็น 4 เรียกได้ว่าเป็นการตั้งรับอย่างหนักแน่นสุด ๆ เลยก็ว่าได้
 
  ซึ่งนั่นก็เป็นผลให้การแย่งบอลแล้วเล่นเกมสวนกลับอย่างรวดเร็วนั้นแทบไม่เกิดขึ้น ในทางฝั่งของชิมิซุนั้น การไม่เสียลูกอันตรายหลายครั้งก็นับว่าเป็นผลดีกับทีม แต่กับมิดฟิลด์ตัวรับประจำฮิโรชิมะอย่างอินางากิ โช ที่มีหน้าที่ในการคอย "แย่งบอล" นั้น เรียกได้ว่าบทบาทของเขาในสนามไม่แสดงออกมาให้เห็นนัก เลยทำให้การตั้งเป้าหมาย "เกมรับที่แข็งแกร่งจะสร้างเกมรุกที่ดี" ตามที่ มิซึโมโตะ ฮิโรกิ เคยกล่าวไว้นั้นแทบไม่แสดงผลออกมาให้เห็นเลย
 
  การเสียประตูจากการทำเซ็ตเพลย์นั้นยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในจังหวะที่ฮิโรชิมะเสียลูกที่สองนั้น เส้นแนวรับของแดนกลางกับกองหลังเปิดอ้าออก ซึ่งนั่นคือการบริหารความเสี่ยงที่ผิดพลาด  จึงทำให้สัมผัสได้ว่า จริงอยู่ที่เกมรับนั้นแน่นหนาจริง แต่มันก็ไม่ได้แข็งแกร่งดุจหินผาแต่อย่างใดเลย
 
  หากเกมรับแข็งแกร่งและมีการเชื่อมโยงกับเกมรุกที่ดีจะเป็นผลโดยตรงต่ออัตราการครอบครองบอล สำหรับฮิโรชิมะที่มีนักเตะอย่างอาโอยามะ โทชิฮิโระเป็นศูนย์กลางของทีมนั้น แม้จะสามารถบุกกดดันหนักได้ก็ตาม แต่ครึ่งแรกก็มีโอกาสทำประตู 2 ครั้ง ส่วนครึ่งหลังก็แค่ 5 ครั้งเพียงเท่านั้น พอถามนักเตะของชิมิซุไปก็พบว่าเกมรุกของฝั่งตรงข้ามไม่ได้มีอะไรน่ากลัวขนาดนั้นเลย

次ページฟอร์มของแพทริคที่ตกลงส่งผลกับผลงานของทีม แม้จะเปลี่ยนธีรศิลป์ลงจนสร้างโอกาสได้หลายครั้งก็ตาม...

แชร์กับเพื่อนๆ
Twitterで更新情報配信中

関連記事