เกมกับคาชิมะดูเผิน ๆ ก็สูสีกัน...
ซัปโปโรพ่ายคาวาซากิและคาชิมะรวมกัน 2 นัดติด ไม่ว่าจะนัดไหนก็เป็นการแพ้แบบหมดรูป ทีมจะกลับมาได้ใหม่หรือไม่
ภาพโดย คาเนโกะ ทาคุยะ (Soccer Digest Photo Team)
[J1 นัดที่ 27] Sapporo0-2Kashima/23 กันยายน/Sapporo Dome
ทีมซัปโปโรภายใต้การคุมของ Mihailo Petrović มีการพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาลนั้นกุนซือหมายมั่นปั้นทีมให้ "คว้าเก้าอี้ ACL ไปให้ได้" จากเดิมที่ซัปโปโรเป็นทีมซึ่งขึ้น ๆ ลง ๆ ระหว่างลีค 1 กับ 2 สลับไปมา กล่าวได้ว่านี่คือประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของซัปโปโรเลยก็ว่าได้
เพียงแต่ว่าในการแข่งขันนัดที่ 26 ซัปโปโรพ่ายถึง 0-7 และในนัดที่ 27 ที่เจอกับคาชิมะนั้นก็พ่ายไปด้วยสกอร์ 0-2 เป็นการแพ้สองนัดติดเป็นหนที่สองของฤดูกาล ส่งผลให้ตอนนี้ทีมอยู่ในอันดับ 7
ด้วยสโลแกนของทีมใหม่ที่เป็นข้อความว่า "จากซัปโปโรสู่โลก" นั้น ในบทความนี้เราจะมาทำการประเมินกันใหม่ว่า สโมสรแห่งภูมิภาคทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่นนั้นจะยังสามารถล่องเรือไปแข่งทั่วทวีปเอเชียได้หรือไม่
สำหรับสโมสรที่อยากจะไปแข่งถ้วย ACL อย่างซัปโปโรซึ่งได้เผชิญหน้ากับสโมสรคาชิมะที่กำลังแข่งอยู่ใน ACL อยู่นั้น นับเป็นการแข่งขันที่น่าสนใจมาก เพียงแต่เมื่อดูการแข่งขันจนจบแล้วก็พบว่า "แพ้คาวาซากิด้วยพละกำลัง ส่วนแพ้คาชิมะด้วยสไตล์การเล่นที่ต่างชั้นกันโดยสิ้นเชิง" โทคุระกล่าวถึงการพ่ายแพ้ในสองเกมที่ผ่านมา
การพ่ายแพ้ในนัดกับคาวาซากิ 7 ลูกนั้นทำให้เห็นถึงว่าทีมมีปัญหาให้ค้นหามากขนาดไหน "โดยเนื้อในแล้วมันไม่ได้มีอะไรที่แย่เลย" ฟุคุโมริกล่าวออกมา ท่าทางเขาจะได้รับคำใบ้อะไรอย่างกับเกมการแข่งขันกับคาชิมะกระมัง
การแข่งขันในนัดนี้ หากดูเผิน ๆ แล้วการครองบอลก็เท่ากัน ภาพรวมของเกมก็ค่อนข้างจะใกล้เคยงกัน แต่หากลงลึกในรายละเอียดแล้วก็จะพบว่า ตลอดทั้งเกมนั้นเป็นชัยชนะของคาชิมะอย่างขาวสะอาดเลย
ทีมซัปโปโรภายใต้การคุมของ Mihailo Petrović มีการพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาลนั้นกุนซือหมายมั่นปั้นทีมให้ "คว้าเก้าอี้ ACL ไปให้ได้" จากเดิมที่ซัปโปโรเป็นทีมซึ่งขึ้น ๆ ลง ๆ ระหว่างลีค 1 กับ 2 สลับไปมา กล่าวได้ว่านี่คือประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของซัปโปโรเลยก็ว่าได้
เพียงแต่ว่าในการแข่งขันนัดที่ 26 ซัปโปโรพ่ายถึง 0-7 และในนัดที่ 27 ที่เจอกับคาชิมะนั้นก็พ่ายไปด้วยสกอร์ 0-2 เป็นการแพ้สองนัดติดเป็นหนที่สองของฤดูกาล ส่งผลให้ตอนนี้ทีมอยู่ในอันดับ 7
ด้วยสโลแกนของทีมใหม่ที่เป็นข้อความว่า "จากซัปโปโรสู่โลก" นั้น ในบทความนี้เราจะมาทำการประเมินกันใหม่ว่า สโมสรแห่งภูมิภาคทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่นนั้นจะยังสามารถล่องเรือไปแข่งทั่วทวีปเอเชียได้หรือไม่
สำหรับสโมสรที่อยากจะไปแข่งถ้วย ACL อย่างซัปโปโรซึ่งได้เผชิญหน้ากับสโมสรคาชิมะที่กำลังแข่งอยู่ใน ACL อยู่นั้น นับเป็นการแข่งขันที่น่าสนใจมาก เพียงแต่เมื่อดูการแข่งขันจนจบแล้วก็พบว่า "แพ้คาวาซากิด้วยพละกำลัง ส่วนแพ้คาชิมะด้วยสไตล์การเล่นที่ต่างชั้นกันโดยสิ้นเชิง" โทคุระกล่าวถึงการพ่ายแพ้ในสองเกมที่ผ่านมา
การพ่ายแพ้ในนัดกับคาวาซากิ 7 ลูกนั้นทำให้เห็นถึงว่าทีมมีปัญหาให้ค้นหามากขนาดไหน "โดยเนื้อในแล้วมันไม่ได้มีอะไรที่แย่เลย" ฟุคุโมริกล่าวออกมา ท่าทางเขาจะได้รับคำใบ้อะไรอย่างกับเกมการแข่งขันกับคาชิมะกระมัง
การแข่งขันในนัดนี้ หากดูเผิน ๆ แล้วการครองบอลก็เท่ากัน ภาพรวมของเกมก็ค่อนข้างจะใกล้เคยงกัน แต่หากลงลึกในรายละเอียดแล้วก็จะพบว่า ตลอดทั้งเกมนั้นเป็นชัยชนะของคาชิมะอย่างขาวสะอาดเลย
ไม่ว่าจะเป็นเท้าขวาของเอ็นโด้ ยาสึชิที่เตะจังหวะเดียวจนเข้ามุมที่ผู้รักษาประตูชาวเกาหลีใต้อย่าง Gu Sung-Yun ที่ตัวสูงถึง 195 เซนติเมตรยังเหยียดแขนรับไม่ถึง หรือจะเป็นช่วงครึ่งหลังที่เมื่อมีการส่งลูกไปยังกองหน้าอย่าง Jay ทางทีมคาชิมะก็เข้ามาประกบสองข้างอย่างรวดเร็วโดยทันที ซึ่งกองหลังอย่าง อิชิคาวะ นาโอกิ วัย 33 ปีก็ยังกล่าวว่า "จำเป็นต้องแข่งโดยมองภาพรวมของเกมให้ออกยิ่งกว่านี้"
ส่วนในครึ่งหลังถึงแนวรุกสองคนอย่าง มิยาซาวะ ฮิโรกิ และ ฟุคาอิ คาซึกิจะเล่นปีกแล้วรุกไปถึงเส้นหลังก็ตาม แต่โดยภาพรวมก็เหมือนกับการรุกไปตามกลยุทธิ์แต่เพียงเท่านั้น ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความยืดหยุ่นในเกมรุกได้เลย
ส่วนในครึ่งหลังถึงแนวรุกสองคนอย่าง มิยาซาวะ ฮิโรกิ และ ฟุคาอิ คาซึกิจะเล่นปีกแล้วรุกไปถึงเส้นหลังก็ตาม แต่โดยภาพรวมก็เหมือนกับการรุกไปตามกลยุทธิ์แต่เพียงเท่านั้น ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความยืดหยุ่นในเกมรุกได้เลย
次ページการไปให้ถึง ACL นั้นคือเป้าหมาย? หรือมันจะเป็นการหวังสูงเกินไปแน่?