［Ｊ１ นัดที่ 26] คาวาซากิ７-０ซัปโปโร／15 กันยายน／Kawasaki Todoroki Stadium

  คอนซาโดเล่ซัปโปโรที่เป็นทีมเยือนทำการบุกกดดันคาวาซากิฟรอนเทลตั้งแต่เริ่มเขี่ยลูก โอกาสทำประตูภายใน 15 นาทีนั้นมีถึง 3 ครั้ง จากรูปเกมดังกล่าวก็เห็นชัดว่าจะทำประตูตอนไหนก็เป็ฯเรื่องของเวลาเพียงอย่างเดียวเลย
 
  จนกระทั่งความผิดพลาดก็เกิดขึ้น

  "เป็นความผิดของผมเองครับ พอพลาดง่าย ๆ เลยทำให้กระแสของเกมเทไปทางฝั่งตรงข้ามหมดเลย..."
  กัปตันทีมมิยาซาวะ ฮิโรกิกล่าวออกมาเมื่อเขานึกย้อนถึงการแข่งขัน ในตอนนั้นมิยาซาวะจ่ายลูกไปด้านข้างในจุดอันตรายและโดนดักเข้าได้ด้วยฝีมือของนากามูระ เคนโก จากนั้นใน 3 นาทีถัดมาฟุคาอิ คาซึกิก็เสียลูกเป็นผลให้ทีมถูกทำคะแนนขึ้นนำ แต่กระนั้นพอเข้าครึ่งหลังความผิดพลาดก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขจนเป็นผลให้การแข่งขันในนัดนี้ซัปโปโรพ่ายไปถึง 7 ลูก
 
  นี่คือการแข่งขันครั้งแรกนับตั้งแต่พ่ายพ้นช่วงหยุดพักการแข่งขันระดับนานาชาติของซัปโปโณนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวในวันที่ 6 กันยายน
 

  แผ่นดินไหวในวันที่ 6 นั้นเป็นผลให้ทีมซัปโปโรต้องทำการหยุดฝึกซ้อมยาวนานถึง 4 วัน แต่แล้วการหยุดซ้อมต้องดีเลย์ออกไปอีก 2 วันเนื่องจากนักเตะจำเป็นต้องกลับไปที่บ้านเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ กล่าวได้ว่าเป็นเวลาเกือบ 1 สัปดาห์ที่ร่างกายขาดการฝึกซ้อมที่เหมาะสมไป เพราะฉะนั้นการจะเรียกสภาพความฟิตให้กลับคืนเดิมนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย ซึ่งในความเป็นจริงมิยาซาวะก็ยังสารภาพว่า "พอหยุดยาวเกินจึงทำให้กู้อะไรกลับคืนมายากเลยครับ" อีกด้วย "แม้จะขาดไฟ ขาดประปาก็ตาม แต่ด้วยความรู้สึกที่แรงกล้าทางผมก็เตรียมตัวเท่าที่สามารถทำได้อย่างเต็มที่เพื่อจะโชว์การเล่นที่ดีออกมาให้ได้ครับ"
 
  สาเหตุที่ทั้งอาราโนะ ทาคุมะ ชนาธิปและโทคุระ เคน ทำการบุกช่วงชิงบอลอย่างเต็มที่ใน 20 นาทีแรกนั้นก็คงเป็นเพราะความรู้สึกอันแรงกล้าดังกล่าวอย่างไม่ผิดแน่
  แม้จะไม่สามารถแก้ความผิดพลาดต่อเนื่องได้ก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรที่คู่ควรแก่การชมเลย  แม้กระทั่งนากามูระที่แย่งบอลได้จากมิยาซาวะยังพูดว่า "ถ้าลูกนั้นพลาดไป ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าเกมจะออกมาในรูปแบบไหนเหมือนกัน"