ธีรศิลป์ แดงดา เจ้าของเสื้อหมายเลข 10 ทีมชาติไทยที่ได้รับสมญานามจากแฟนชาวไทยว่า "เทพมุ้ย" ได้ย้ายเข้ามาร่วมสโมสรซานเฟรสฮิโรชิมะในวัย 30 ปี ซึ่งขณะนี้สโมสรกำลังครองตำแหน่งจ่าฝูงของเจลีคอยู่ด้วย

  การเปิดตัวของ "เทพมุ้ย" ในเจลีคเป็นไปได้ด้วยความสวยหรู เกมเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของซัปโปโรและได้เจอเพื่อนร่วมชาติอย่างชนาธิป สรงกระสินธ์ ตำแหน่งมิดฟิลด์
  ท่ามกลางผืนธงชาติไทยที่โบกสะบัด เทพมุ้ยสามารถทำประตูจนทีมคว้าชัยได้ไปอย่างงดงาม
 
  นับจากนั้นเป็นเวลาผ่านไปทั้งสิ้น 6 เดือน ทางเราได้เข้าไปสัมภาษณ์ในเกมการแข่งขันนัดที่ 24 ของ J1 เพื่อต้องการทราบข่าวคราวของเทพมุ้ยโดยตรง

  ในการแข่งขันนัดนี้ ธีรศิลป์ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในนาทีที่ 60 แทนที่กองหน้าวาตาริ ไดกิ ในการแข่งขันที่ทีมฮิโรชิมะต้องการอย่างน้อย 1 คะแนนในฐานะทีมเยือนนั้น ธีรศิลป์ทำหน้าที่ในตำแหน่งกองหน้าในยามคับขันด้วยการลงไปช่วยในเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม
  หลังการแข่งขันจบทางเราเข้าไปสัมภาษณ์เทพมุ้ยโดยทันที

――ใช้ชีวิตอย่างไรบ้างครับกับหน้าร้อนครั้งแรกของญี่ปุ่น
"เนื่องจากตอนนี้ทีมนำจ่าฝูงอยู่ เลยใช้ชีวิตแต่ละวันด้วยความกดดันในระดับที่กำลังดีครับ ในช่วงเวลาส่วนตัวก็มีฟังเพลงบ้าง ดูหนังบ้าง เล่นกับลูกบ้าง ผมใช้เวลากับเพื่อนในสโมสรเหมือนกับครอบครัวเลยล่ะครับ"
 
――ถึงอากาศที่ไทยจะร้อนก็ตาม แต่หน้าร้อนที่ญี่ปุ่นปีนี้จัดว่านรกแตกมาก ร่างกายมีปัญหาบ้างหรือเปล่าครับ?
"ที่ไทยกับญี่ปุ่นนี่ระดับความชื้นมันแตกต่างกันมากเลยล่ะครับ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรครับ การฝึกซ้อมกับทีมยังคงเข้มงวด การขับเคี่ยวตัวเองก็เป็นได้อย่างดีด้วย เลยทำให้สภาพร่างกายดีเลยล่ะครับ"

――ตอนอยู่ที่ไทยนี่ คุณคือผู้เล่นตัวจริงทั้งในสโมสรและในทีมชาติ แต่กับทีมฮิโรชิมะคุณเริ่มต้นในตำแหน่งเก้าอี้ม้านั่งสำรองบ่อยครั้ง ไม่ทราบว่าคิดเห็นอย่างไรกับตรงจุดนี้บ้างเหรอครับ?
"ความรู้สึกไม่ได้เปลี่ยนอะไรขนาดนั้นเลยครับ จริงอยู่ที่มีนัดหนึ่งที่ผมได้ลงเป็นตัวจริงแล้วจบลงด้วยสกอร์เสมอที่ 0-0 ในการแข่งขันนั้นมีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายอย่างมากมาย ภายในการแข่งขันที่รวดเร็วนั้นก็มีความยากในการเล่นพอสมควรครับ แต่ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทุ่มให้เต็ม 100% นั่นเองครับ"

――ทีมอยู่หัวตารางแบบนี้ น่าจะการันตีโควต้า ACL ในปีหน้าแล้วล่ะครับ เริ่มมองเห็นภาพการคว้าชัยกับทีมไทยเอาไว้บ้างหรือยังครับ?
"ยังเลยครับ ยังไม่ได้คิดถึงขนาดนั้นเลยครับ สิ่งสที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการทุ่มให้เต็มที่กับการแข่งขันทีละนัดที่อยู่ตรงหน้าครับ ผมคิดว่ายังจำเป็นต้องยกระดับการเล่นของตัวเองขึ้นให้ได้"