วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา การแข่งขัน J1 นัดที่ 31 มีการแข่งขันกันทั้งหมด 8 คู่ หนึ่งในนั้นคือการแข่งขันที่สนามอัตสึเบตสึสเตเดียม ซึ่งเป็นการเปิดบ้านของสโมสร Hokkaido Consadole Sapporo และ Kawasaki Frontale โดยที่เจ้าบ้านเฉือนคว้าชัยชนะได้ 4-3

  สโมสรซัปโปโรที่อยู่ในฟอร์มดีไม่แพ้ใครมา 3 เกมติดนั้น ต้องเจอกับคาวาซากิฟรอนตาเล่รองจ่าฝูงที่ตามหลังจ่าฝูงอย่างโยโกฮาม่าอยู่ 5 แต้ม แน่นอนว่านี่คือเกมที่ดุเดือดเป็นอย่างยิ่ง โดยนัดนี้คาวาซากิได้ประตูออกนำก่อนจากจังหวะจุดโทษในนาที 30 จากการสังหารจุดโทษของอิเอนากะ อากิฮิโระ แต่แล้วเจ้าบ้านก็ตีเสมอได้ในนาที 33 จากลูคัส เฟอร์นันเดส และแล้วก่อนจบครึ่งแรกนาที 41 เจ้าบ้านก็ยิงประตูเพิ่มพลิกขึ้นมาแซงได้จากจังหวะจุดโทษ ผู้สังหารก็คือโคโรกิ ชินโซ ทำให้จบครึ่งแรกซัปโปโรนำ 2-1

  เข้าสู่ครึ่งหลัง คาวาซากิได้ประตูจากจิเนน เคย์ในนาที 60 และโคบายาชิ ยู ในนาที 69 จนกลับมาพลิกแซงได้อีกรอบ ทว่าซัปโปโรก็ยังสู้ไม่ถอย นาที 83 ได้ประตูตีเสมอจากกาบริเอล ซาเวียร์ และแล้วในนาที 90+12 ก็ได้ประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากโอกาชิวะ สึโยชิ ที่ช่วยให้ทีมคว้าชัยชนะมาครองได้สำเร็จ

  ชัยชนะในนัดนี้ทำให้ซัปโปโรชนะ 3 เสมอ 1 จาก 4 เกมล่าสุด และนั่นก็เป็นการพ่ายแพ้ที่น่าเจ็บใจของคาวาซากิกับการไล่ตามโยโกฮาม่าอีกเช่นเดียวกัน

【VIDEO】ซัดกระจุยกระจายรวม 7 ลูก! ไฮไลท์การแข่งขันนัดซัปโปโร vs คาวาซากิ

  ความระอุในนัดนี้ได้ทำให้สื่อบราซิล globo โดยผู้สื่อข่าวสายญี่ปุ่นอย่าง ธิอาโก้ บอนเทมโป้ ถึงกับเขียนข่าวด้วยความประทับใจว่า "หนึ่งในนัดที่เหลือเชื่อที่สุดในฤดูกาลนี้" พร้อมกับลงรายละเอียดข่าวดังนี้

  "การแข่งขันเจลีกฤดูกาล 2022 เหลืออีกเพียง 3 นัด จะมีก็แค่จ่าฝูงโยโกฮาม่า เอฟ มารินอสและรองจ่าสูงอย่างคาวาซากิ ฟรอนตาเล่เท่านั้นที่ยังเหลือการแข่งขันอีก 4 นัด ทว่าการแข่งขันในวันเสาร์ที่จบลงไปก็แทบทำให้ตัดสินแชมป์ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในสุดสัปดาห์หน้าโยโกฮาม่ามีโอกาสคว้าชัยชนะสมัยที่ 5 ของตัวเองมาครองได้เป็นผลสำเร็จ

  ประเด็นที่ต้องพูดถึงในนัดนี้คือการดวลกันอย่างดุเดือด ณ สนามอัตสึเบตสึของทีมซัปโปโร ในนัดนี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายอย่าง การแข่งขันดำเนินไปด้วยความบ้าคลั่ง ทั้งสองฝั่งมีโอกาสทำประตูกันอย่างมากมาย ในวันนี้ "มือสังหารซัปโปโร" อย่างโคบายาชิ ยู ก็ยังยิงซัปโปโรเหมือนเดิม นับตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมาเขาพังประตูซัปโปโรไปเป็นจำนวน 15 ลูกแล้ว

  ทว่าเจ้าบ้านก็ยังไม่ยอมสิโรราบ ในช่วงท้ายเกมที่ฝั่งตรงข้ามโดนใบแดงไป 1 คนทีมก็ใช้จังหวะสวนกลับในช่วงท้ายจนได้ประตูชัยจากโอกาชิวะ สึโยชิ และคว้าชัยชนะได้ระดับประวัติศาสตร์ สาเหตุที่พวกเขาคึกคักกันเป็นอย่างนี้ก็เพราะมันเป็นการดวลกันอย่างสุดเดือดใกล้เคียงนัดชิงถ้วยลูวานในปี 2019 เลย"
　
  ดูเหมือนว่าการแข่งขันสุดดุเดือดในช่วงท้ายฤดูกาลนั้นได้กระแทกกระทั้นเข้าไปยังหัวใจของผู้สื่อข่าวที่อยู่อีกฟากหนึ่งของน้ำทะเลเลย

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest

【VIDEO】ประตูตีเสมอจากซัปโปโร! ลูคัส เฟอร์นันเดส ยิงลูกกระฉอกจากจังหวะสวนกลับ

【PHOTO】เปลี่ยนดีไซน์ทุกทีม! รวมภาพชุดแข่งแต่ละชาติที่ประกาศชุดแข่งชุดใหม่ออกมาในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกปีนี้!

【PHOTO】รวมภาพชุดแข่งทีมชาติญี่ปุ่นจากอดีตจนถึงปัจจุบันที่คัดเลือกมาเป็นอย่างดี!（1992-2022）