เวนเกอร์จากนาโกย่าที่ไม่มีชื่อสู่การคุมอาร์เซนอล
ตัวเก็งว่าที่กุนซือคนใหม่ของสโมสรเซลติกคือพอสเตคูกลู
ภาพโดย: คาเนโกะ ทาคุยะ(Soccer Digest Photo Team)
อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติออสเตรเลีย Mark Bosnich ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นด้วยทัศนวิสัยที่ตรงประเด็นของเขาในกรณีที่รุ่นพี่ชาติเดียวกันจะถูกทาบทามให้มารับหน้าที่คุมบังเหียนของสโมสร Celtic ในรายการของทาง Sky Sports
หลังกุนซือคนเก่าอย่าง Neil Lennon แยกทางไป ก็มีข่าวคราวว่าเซลติกได้ติดต่อ Eddie Howe ที่เคยคุมบอร์นมัธและเบิร์นลีย์มาก่อน แต่ก็ดูเหมือนว่าการเจรจาเกิดความล้มเหลว จากนั้นก็มีการลิสต์รายชื่อขึ้นมาใหม่ ซึ่งคนนั้นก็คือกุนซือแองเจ พอสเตคูกลูของสโมสร Yokohama F. Marinos นั่นเอง
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เมื่อปี 2019 พอสเตคูกลูพาทีมโยโกฮาม่าคว้าแชมป์ J1 ได้ในรอบ 15 ปี ส่วนก่อนหน้านี้ทีมคุมทีมชาติออสเตรเลียนั้นก็พาทีมคว้าแชมป์เอเชียนคัพมาก่อนได้ แต่กระนั้นแม้กุนซือวัย 55 ปีจะมีชื่อเป็นตัวเก็งว่าที่กุนซือคนใหม่ก็ตาม แต่ตัวของบอสนิชได้แสดงความคิดเห็นออกมาในรายการเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า "เสี่ยงสูงมาก" พร้อมกับทำการลั่นระฆังแจ้งเตือนออกมาดังนี้
"เขามีช่วงเวลาที่แสนวิเศษกับที่ Brisbane Roar คว้าถ้วยรางวัลแรกในเวทีระดับเอเชียมาครองได้ แต่ความสำเร็จและการคว้าแชมป์ที่ออสเตรเลียและญี่ปุ่นได้นั้น ก็ไม่ได้เท่ากับว่าจะประสบความสำเร็จในลีกสก็อตแลนด์ได้ ทุกอย่างไม่ได้อำนวยอะไรในการบริหารทีมที่มีสภาพแวดล้อมและได้รับการสนับสนุนในระดับโลกอย่างเซลติกเลย
เซลติกเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่มาก แฟน ๆ คงมีความกังวลในเรื่องของตัวกุนซือคนใหม่เป็นจำนวนไม่น้อย หากเขาได้รับการแต่งตั้งให้คุมทีมก็จะกลายเป็นโอกาสที่ใหญ่ยิ่งอย่างไม่ผิดแน่ แต่มันก็ต้องตามมาด้วยความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องพูดถึงเลย"
หลังกุนซือคนเก่าอย่าง Neil Lennon แยกทางไป ก็มีข่าวคราวว่าเซลติกได้ติดต่อ Eddie Howe ที่เคยคุมบอร์นมัธและเบิร์นลีย์มาก่อน แต่ก็ดูเหมือนว่าการเจรจาเกิดความล้มเหลว จากนั้นก็มีการลิสต์รายชื่อขึ้นมาใหม่ ซึ่งคนนั้นก็คือกุนซือแองเจ พอสเตคูกลูของสโมสร Yokohama F. Marinos นั่นเอง
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เมื่อปี 2019 พอสเตคูกลูพาทีมโยโกฮาม่าคว้าแชมป์ J1 ได้ในรอบ 15 ปี ส่วนก่อนหน้านี้ทีมคุมทีมชาติออสเตรเลียนั้นก็พาทีมคว้าแชมป์เอเชียนคัพมาก่อนได้ แต่กระนั้นแม้กุนซือวัย 55 ปีจะมีชื่อเป็นตัวเก็งว่าที่กุนซือคนใหม่ก็ตาม แต่ตัวของบอสนิชได้แสดงความคิดเห็นออกมาในรายการเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า "เสี่ยงสูงมาก" พร้อมกับทำการลั่นระฆังแจ้งเตือนออกมาดังนี้
"เขามีช่วงเวลาที่แสนวิเศษกับที่ Brisbane Roar คว้าถ้วยรางวัลแรกในเวทีระดับเอเชียมาครองได้ แต่ความสำเร็จและการคว้าแชมป์ที่ออสเตรเลียและญี่ปุ่นได้นั้น ก็ไม่ได้เท่ากับว่าจะประสบความสำเร็จในลีกสก็อตแลนด์ได้ ทุกอย่างไม่ได้อำนวยอะไรในการบริหารทีมที่มีสภาพแวดล้อมและได้รับการสนับสนุนในระดับโลกอย่างเซลติกเลย
เซลติกเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่มาก แฟน ๆ คงมีความกังวลในเรื่องของตัวกุนซือคนใหม่เป็นจำนวนไม่น้อย หากเขาได้รับการแต่งตั้งให้คุมทีมก็จะกลายเป็นโอกาสที่ใหญ่ยิ่งอย่างไม่ผิดแน่ แต่มันก็ต้องตามมาด้วยความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องพูดถึงเลย"
แต่ในอีกมุมหนึ่ง อดีตนายทวารวัย 49 ปีที่เคยค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แอสตันวิลล่าและเชลซีมาก่อนนั้น เขาได้ยกตัวอย่างอาร์เซน เวนเกอร์ ที่เคยคุมสโมสร Nagoya Grampus ในปี 1996 แล้วก็ย้ายไปคุมปืนใหญ่อาร์เซนอลด้วย โดยเจ้าตัวระบุว่าแม้จะเป็นกุนซือทีมโนเนมมาก่อน แต่เขาก็พาทีมใหญ่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 3 หน คว้าแชมป์ถ้วย FA Cup ได้ 7 หนจนกลายเป็นกุนซือผู้อยู่ในระดับแนวหน้าของวงการ ซึ่งการยกตัวอย่างเวนเกอร์ออกมานั้นก็เป็นการระบุว่าบางทีไม่จำเป็นต้องกังวลมากเสียจนเกินไป
"ตอนที่เวนเกอร์ถูกแต่งตั้งให้คุมทีมอาร์เซนอล ตอนนั้นผมก็ยังอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ผมยังจำพาดหัวในปกหลังได้เลยว่า "อาร์เซนคือใคร?" ที่เป็นตัวแทนของเสียงส่วนใหญ่ในตอนนั้น แต่ก็มารู้ทีหลังแหละนะว่าอาร์เซน เวนเกอร์คือใครกันแน่ คิดว่าที่ญี่ปุ่นก็คงเป็นเหมือนกัน โดยผลลัพธ์ก็คือเมื่อเขามาที่นี่ก็เข้าใจได้ทันทีและสามารถตีความวิธีการต่อสู้ของที่นี่ได้อย่างแม่นยำเลย"
ท้ายที่สุดบอสนิชก็ระบุว่า "หากให้พูดคำ 1 คำ ที่เปรียบเปรยถึงความสามารถในการคุมทีมล่ะก็ มันก็คือความสามารถในการปรับตัว" ที่เป็นของพอสเตคูกลู ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าหากพอสเตคูกลูจะย้ายไปคุมเซลติกจริงล่ะก็ เขาจะสามารถใช้ความสามารถในการปรับตัวที่แสนภาคภูมิใจจนลดข้อครหาและเสียงเซ็งแซ่ของผู้คนลงได้หรือไม่
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest
【PHOTO】หวนคืนความประทับใจในวันนั้น! รวมภาพบรรยากาศวันที่โยโกฮาม่าคว้าแชมป์ได้ในปี 2019! การแข่งขันนัดที่ 34 ระหว่างโยโกฮาม่า ปะทะ เอฟซีโตเกียว
"ตอนที่เวนเกอร์ถูกแต่งตั้งให้คุมทีมอาร์เซนอล ตอนนั้นผมก็ยังอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ผมยังจำพาดหัวในปกหลังได้เลยว่า "อาร์เซนคือใคร?" ที่เป็นตัวแทนของเสียงส่วนใหญ่ในตอนนั้น แต่ก็มารู้ทีหลังแหละนะว่าอาร์เซน เวนเกอร์คือใครกันแน่ คิดว่าที่ญี่ปุ่นก็คงเป็นเหมือนกัน โดยผลลัพธ์ก็คือเมื่อเขามาที่นี่ก็เข้าใจได้ทันทีและสามารถตีความวิธีการต่อสู้ของที่นี่ได้อย่างแม่นยำเลย"
ท้ายที่สุดบอสนิชก็ระบุว่า "หากให้พูดคำ 1 คำ ที่เปรียบเปรยถึงความสามารถในการคุมทีมล่ะก็ มันก็คือความสามารถในการปรับตัว" ที่เป็นของพอสเตคูกลู ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าหากพอสเตคูกลูจะย้ายไปคุมเซลติกจริงล่ะก็ เขาจะสามารถใช้ความสามารถในการปรับตัวที่แสนภาคภูมิใจจนลดข้อครหาและเสียงเซ็งแซ่ของผู้คนลงได้หรือไม่
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest
【PHOTO】หวนคืนความประทับใจในวันนั้น! รวมภาพบรรยากาศวันที่โยโกฮาม่าคว้าแชมป์ได้ในปี 2019! การแข่งขันนัดที่ 34 ระหว่างโยโกฮาม่า ปะทะ เอฟซีโตเกียว