Thomas Vermaelen ผู้ย้ายมาอยู่สโมสร Vissel Kobe ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีก่อนแล้วแสดงฝีไม้ลายมือจนเป็นที่ประจักษ์ออกมานั้น เจ้าตัวครองบัลลังก์นักเตะตัวจริงอย่างเหนียวแน่น โดยในเดือนมกราคมปีนี้ก็ช่วยทีมคว้าแชมป์ Emperor's Cup ได้อีกด้วย ว่าแต่ว่าเจ้าตัวรู้สึกอย่างไรกับการได้มาค้าแข้งที่ "แดนไกล" แบบนี้บ้าง
ล่าสุดในวันที่ 6 พฤศจิกายน หนังสือพิมพ์เบลเยียม Der Morgen ได้ลงบทสัมภาษณ์ของเฟอร์มาเลินซึ่งเจ้าตัวก็บอกเล่าถึงสภาพปัจจุบันของเขาออกมา
เฟอร์มาเลินแม้ปัจจุบันจะอายุ 34 แล้วก็ตาม เจ้าตัวที่ลงแข่งเกมอย่างเป็นทางการทั้งหมด 13 นัดในฤดูกาลนี้ก็ถือเป็นตัวตนสำคัญในทีม ล่าสุดในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้เฟอร์มาเลินก็ถูกเรียกให้กลับไปติดทัพทีมชาติเบลเยียมร่วมกับเควิน เดอบรอยน์หรือโรเมลู ลูกากู นับเป็นการรีเทิร์นทีมชาติอีกครั้งในรอบ 1 ปีของเขา
โดยเฟอร์มาเลินได้ระบุถึงการย้ายมาค้าแข้งเมื่อปีก่อนในช่วงที่มีอายุในระดับหนึ่งว่า "ผมเชื่อมั่นว่ายังไหวอยู่" พร้อมกับกล่าวเพิ่มเติมออกมาดังนี้
"หลายคนคิดว่าประการหลังของเบลเยียมในปัจจุบันมันเก่าคร่ำครึแล้ว แต่โดยส่วนตัวของผมนั้นตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ผมก็รู้ตัวเลยว่าทักษะของผมยังไม่ได้เจือจางไปไหน ตลอดการฝึกซ้อมและอะไรหลาย ๆ อย่างมันทำให้ผมรู้สึกอยากจะคว้าชัยชนะในสนามให้ได้ ยามผมไปเหยียบสนามอีกครั้งก็รู้สึกตื่นเต้น รวมไปถึงมันเป็นแรงกระตุ้นที่ผลักดันให้ผมอยากจะกลับมายืนบนสนามอีกครั้ง บางทีหากความรู้สึกเหล่านั้นหายไปเมื่อไร ผมก็คงคิดที่จะแขวนสตั๊ด"
「ถ้าเป็นคาวาซากิต้องสร้างผลลัพธ์อันน่าทึ่งออกมาได้」เฟอร์มาเลิน ประการหลังแห่งโกเบให้สัมภาษณ์สื่อบ้านเกิดถึงญี่ปุ่น! 「ผมรักที่นี่」
カテゴリ:ワールド
2020/11/08
พูดถึงอนาคตของตัวเองออกมาด้วย

เฟอร์มาเลินผู้ครองตำแหน่งอย่างเหนียวแน่นในโกเบนั้น เขาออกมาพูดถึงวงการฟุตบอลญี่ปุ่นหลังค้าแข้งมาเกินหนึ่งปี
(C) SOCCER DIGEST
กองหลังทีมชาติเบลเยียมผู้หนักแน่นว่าทักษะของตัวเองยังไม่ถดถอยลงไปนั้น สาเหตุสำคัญที่ทำให้เฟอร์มาเลินคิดเช่นนั้นก็เพราะความแข่งขันกันในระดับสูงของเจลีกนั่นเอง
"ผมไม่ได้มานอนอยู่บนโซฟาอย่างเอื่อยเฉื่อยที่ญี่ปุ่น หลายคนก็รู้ว่าการแข่งขันในญี่ปุ่นนั้นดุดันมาก ซึ่งผมก็ถูกทดสอบทุก ๆ วันในดินแดนแห่งนี้ นักเตะญี่ปุ่นช่างมีความคม ความว่องไวและมีเทคนิคที่ดีมาก แน่นอนว่าการจะเอาประเทศนี้ไปเทียบเคียงกับระดับในยุโรปนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ แต่ถ้าให้จ่าฝูงอย่างคาวาซากิฟรอนตาเล่ไปเจอกับทีมระดับท็อปในยุโรปล่ะก็ ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นมีสิทธิ์ที่จะทำให้ทุกคนทึ่งได้อย่างแน่นอน"
เฟอร์มาเลินที่ยังมีสัญญาอยู่กับสโมสรวิสเซลโกเบถึงเดือนมกราคม 2022 นั้น เจ้าตัวได้เปรยถึงโอกาสที่จะค้าแข้งอยู่ญี่ปุ่นต่อหลังหมดสัญญากับโกเบออกมาอีกด้วย
"จริงอยู่ที่คงต้องระมัดระวังกันอยู่ แต่ผมก็ชอบประเทศนี้ ผมรักชีวิตและวัฒนธรรมอันหลากหลายของประเทศนี้ เพราะฉะนั้นผมก็คิดถึงเรื่องสัญญาฉบับใหม่อยู่ด้วย"
กว่าเฟอร์มาเลินจะหมดสัญญากับโกเบนั้นเขาก็จะมีอายุถึง 36 ปีแล้ว ก็ต้องมาดูกันต่อว่ายอดนักรบผู้มีความรักต่อญี่ปุ่น "อย่างหนักแน่น" นั้น พวกเราจะได้เห็นเขาค้าแข้งกับเจลีกต่อจากนี้ไปอีกหรือไม่
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest
"ผมไม่ได้มานอนอยู่บนโซฟาอย่างเอื่อยเฉื่อยที่ญี่ปุ่น หลายคนก็รู้ว่าการแข่งขันในญี่ปุ่นนั้นดุดันมาก ซึ่งผมก็ถูกทดสอบทุก ๆ วันในดินแดนแห่งนี้ นักเตะญี่ปุ่นช่างมีความคม ความว่องไวและมีเทคนิคที่ดีมาก แน่นอนว่าการจะเอาประเทศนี้ไปเทียบเคียงกับระดับในยุโรปนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ แต่ถ้าให้จ่าฝูงอย่างคาวาซากิฟรอนตาเล่ไปเจอกับทีมระดับท็อปในยุโรปล่ะก็ ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นมีสิทธิ์ที่จะทำให้ทุกคนทึ่งได้อย่างแน่นอน"
เฟอร์มาเลินที่ยังมีสัญญาอยู่กับสโมสรวิสเซลโกเบถึงเดือนมกราคม 2022 นั้น เจ้าตัวได้เปรยถึงโอกาสที่จะค้าแข้งอยู่ญี่ปุ่นต่อหลังหมดสัญญากับโกเบออกมาอีกด้วย
"จริงอยู่ที่คงต้องระมัดระวังกันอยู่ แต่ผมก็ชอบประเทศนี้ ผมรักชีวิตและวัฒนธรรมอันหลากหลายของประเทศนี้ เพราะฉะนั้นผมก็คิดถึงเรื่องสัญญาฉบับใหม่อยู่ด้วย"
กว่าเฟอร์มาเลินจะหมดสัญญากับโกเบนั้นเขาก็จะมีอายุถึง 36 ปีแล้ว ก็ต้องมาดูกันต่อว่ายอดนักรบผู้มีความรักต่อญี่ปุ่น "อย่างหนักแน่น" นั้น พวกเราจะได้เห็นเขาค้าแข้งกับเจลีกต่อจากนี้ไปอีกหรือไม่
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest