เหล่าซามูไรผู้ทำการต่อสู้อย่างอาจหาญที่บราซิลเมื่อ 7 ปีก่อนนั้น ทุกวันนี้สีสันของพวกเขาก็ไม่ได้เจือจางลงแต่อย่างใด
วันที่ 15 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น หนังสือพิมพ์อิตาลี La Repubblica ได้ลงบทความ "10 การแข่งขันที่คู่ควรกับการจดจำ ผลการแข่งขัน 4-3 สุดดราม่านั้นคือขนาดไหน" โดยเป็นการหยิบยกการแข่งขันเริ่มตั้งแต่ระหว่าง Real Madrid กับ Racing ในปี 1953 จนไปถึงศึกระหว่างยูเวนตุสและนาโปลีในปี 2019 ที่คัดเลือกจากผลการแข่งขันเอามานำเสนอ.ให้ได้รู้จักกัน
จาก 1 ใน 10 แมทช์ที่น่าจดจำนั้น ก็มีการแข่งขันศึก FIFA Confederations Cup 2013 ในวันที่ 19 มิถุนายน 2013 รอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 2 ที่ทีมชาติอิตาลีต้องเจอกับญี่ปุ่นติดโผด้วย ทีมชาติญี่ปุ่นในยุคนั้นภายใต้การทำทีมของกุนซืออัลแบร์โต ชักเกโรนีชาวอิตาลี ท้ายที่สุดทัพซามูไรก็พ่ายไป 3-4 แต่ก็เป็นการแข่งขันที่ทีมชาติญี่ปุ่นสามารถต่อสู้กับอิตาลีได้อย่างองอาจสมศักดิ์ศรี
ทางสื่อพูดถึงการแข่งขันอันสุดร้อนแรงที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของคนญี่ปุ่นว่า "ราตรีแห่ง Recife ที่ผู้ชมคึกคักกันหมด" เป็นการชื่นชมดังนั้นพร้อมกับลงรายละเอียดดังนี้
"เมื่อมีประตูที่ยอดเยี่ยมเกิดขึ้นก็ต้องมีประตูที่อยากจะลืมเลือนเช่นกัน ในการแข่งขันนัดนี้มีทั้งการทำเข้าประตูตัวเอง การสังหารจุดโทษ จังหวะลูกชนคาน ชนเสาที่เห็นกันหลายครั้งมาก การจะให้สรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นตลอด 90 นาทีที่ Recife ในการแข่งขันศึก FIFA Confederation Cup 2013 ออกมาได้นั้นช่างเป็นเรื่องยากเหลือเกิน"
「โชคชะตาเล่นตลกที่น่าตะลึง」สื่ออิตาลียก "Italy vs Japan" เมื่อ 7 ปีก่อนติดใน "10 การแข่งขันที่ต้องจารึก"
カテゴリ:ワールド
2020/06/17
นัดประวัติศาสตร์ของกุนซือซัก

ทีมชาติญี่ปุ่นในยุคกุนซืออัลแบร์โต ซักเกโรนีที่ต่อสู้กับอิตาลีได้อย่างดุเดือดแต่บทสรุปก็จบลงที่พ่ายแพ้อย่างน่าเสียดาย (C) Getty Images
จากนั้นบทความก็ระบุว่า "ทีมชาติอิตาลีเริ่มเกมได้อย่างย่ำแย่ เกมรับขาดสมาธิ 2 ครั้งจนเสีย 2 ประตูปล่อยให้ญี่ปุ่นขึ้นนำไปก่อนจากจุดโทษของฮอนดะและการยิงประตูของคากาวะ" ทว่าท้ายที่สุดก็ได้ประตูจากเซบาสเตียน จิโอวินโค่ที่ทำประตูชัยในนาที 86 จนอิตาลีเอาชนะได้ โดยทางสื่อได้พูดถึงจังหวะที่ทีมชาติญี่ปุ่นถูกบุกทะลวงดังนี้
ช่วงท้ายเกมที่ญี่ปุ่นเสียประตูปิดฉากจากจิโอวินโค่นั้นช่างเป็นดั่งโชคชะตาเล่นตลกที่น่าตะลึงเป็นอย่างยิ่ง ไหนจะลูกยิงของโอกาซากิชนคาน ไหนจะการยิงประตูสุดสวยของโยชิดะที่ถูกยกเว้นไปเนื่องจากล้ำหน้า มั่นใจมากเลยว่ามันต้องเป็นรสชาติแห่งความพ่ายแพ้ที่แสนขมขื่นอย่างแน่นอน"
กุนซือซักเกโรนีในสมัยนั้นได้กล่าวว่า "มันคือการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมราวกับนัดอิตาลีปะทะเยอรมันตะวันตก(ที่กลายเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่ทั้งโลกจดจำ)เลย" การแข่งขันของทีมชาติญี่ปุ่นที่ต่อสู้ได้อย่างองอาจสมศักดิ์ศรีนั้น แม้กระทั่งสื่อจากประเทศฝั่งตรงข้ามก็ยังจดจำถึงผลงานการสู้อย่างดุเดือดได้จนถึงทุกวันนี้เลย
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest
ช่วงท้ายเกมที่ญี่ปุ่นเสียประตูปิดฉากจากจิโอวินโค่นั้นช่างเป็นดั่งโชคชะตาเล่นตลกที่น่าตะลึงเป็นอย่างยิ่ง ไหนจะลูกยิงของโอกาซากิชนคาน ไหนจะการยิงประตูสุดสวยของโยชิดะที่ถูกยกเว้นไปเนื่องจากล้ำหน้า มั่นใจมากเลยว่ามันต้องเป็นรสชาติแห่งความพ่ายแพ้ที่แสนขมขื่นอย่างแน่นอน"
กุนซือซักเกโรนีในสมัยนั้นได้กล่าวว่า "มันคือการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมราวกับนัดอิตาลีปะทะเยอรมันตะวันตก(ที่กลายเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่ทั้งโลกจดจำ)เลย" การแข่งขันของทีมชาติญี่ปุ่นที่ต่อสู้ได้อย่างองอาจสมศักดิ์ศรีนั้น แม้กระทั่งสื่อจากประเทศฝั่งตรงข้ามก็ยังจดจำถึงผลงานการสู้อย่างดุเดือดได้จนถึงทุกวันนี้เลย
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest