ให้ติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ ฯลฯ ในสนามให้เสร็จภายในวันที่ 18 เมษายน
นัดเปิดสนามของแชมป์เก่าโยโกฮาม่ามีผู้ชมถึง 34,521 คน
ภาพโดย: คาเนโกะ ทาคุยะ(Soccer Digest Photo Team)
การแข่งขันเจลีกที่หยุดลงชั่วคราวจากอิทธิพลของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ล่าสุดในวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมาได้มีการประชุมร่วมครั้งที่ 2 ระหว่างบอร์ดบริหารจนได้ข้อสรุปว่าจะเลื่อนการแข่งขันเจลีกในฤดูกาลนี้ออกไปอีกครั้ง
ประธานบอร์ดเจลีก มุราอิ มิตสึรุที่แถลงข่าวผ่านทางระบบวีดีโอสื่อสารได้ระบุว่า จากการหารือกับตัวแทนของแต่ละสโมสรได้ข้อสรุปว่าจะยกเลิกการกลับมาเตะกันอีกครั้งในวันที่ 3 เมษายนออกไป โดยได้ข้อตกลงร่วมกันว่า J3 จะเตะกันอีกครั้งในวันที่ 25 เมษายน ทาง J2 จะเป็นวันที่ 2 พฤษภาคมและทาง J1 ในวันที่ 9 พฤษภาคม
สาเหตุที่เลื่อนออกไปนั้นเพราะจำเป็นจะต้องเตรียมการอุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ อาทิเครื่องวัดอุณหภูมิ หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อให้เสร็จสรรพภายในวันที่ 18 เมษายน อีกทั้งการใช้เทอร์โมมิเตอร์ในการวัดอุณหภูมิยังจำเป็นที่จะต้องมีการฝึกใช้ให้ชำนาญการอีกด้วย นอกจากนั้นแล้วทางประธานมุราอิระบุว่า "การเริ่มต้น J3 ก่อน J1 J2(ที่มีสเกลใหญ่กว่า)นั้นจะเป็นการเพิ่มระดับความเชี่ยวชาญให้สูงขึ้น" เลยจะให้เริ่มเปิดสนามอีกครั้งจาก J3 ก่อนแล้วให้ J1 กลับมาเตะกันอีกครั้งเมื่อพ้นช่วงโกลเดนวีค
ทางผู้เชี่ยวชาญยังระบุถึงจุดที่ต้องกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับการจัดการแข่งขันขึ้นมาอีกครั้ง โดยมี 3 สิ่งที่ต้อง "กลัว" เพื่อไม่ให้โรคระบาดแพร่สะพัดเป็นวงกว้างได้แก่ "อากาศไม่ไหลเวียน" "การแนบชิด" และ "การสัมผัส" ซึ่งกับทางเจลีกนั้นไม่ได้มีปัญหาเรื่อง "อากาศไม่ไหลเวียน" อยู่แล้ว สิ่งที่ต้องเน้นย้ำเพิ่มเติมคือการระมัดระวัง "การแนบชิด" "การสัมผัส" ให้มากยิ่งกว่านี้
ส่วนเรื่องของการรวมกลุ่มนั้น "ผู้คนจากทั่วทั้งประเทศจะมารวมตัวกัน พอการแข่งขันจบลงก็จะเอากลับกันไปทั่วทั้งประเทศ คือจริง ๆ จะมีรายละเอียดปลีกย่อยกว่านี้ แต่เบื้องต้นจะจำกัดไม่ให้แฟน ๆ ของทีมเยือนที่ต้องเดินทางมาไกลมารับชมการแข่งขันในสนามเป็นเวลา 2 เดือน คงต้องให้ผู้ชมทุกท่านกักตัวชมการแข่งขันจากที่บ้าน จะเป็นการแข่งขันที่ไม่มีผู้ชมทีมเยือนในระยะเวลาหนึ่ง โดยรายละเอียดปลีกย่อยจะประกาศในภายหลัง" ซึ่งนั่นคือมาตรการรับมือสำหรับเรื่องดังกล่าว
ในส่วนของมาตรการรับมือการแนบชิดนั้น "โดยกฎเกณฑ์แล้วจะกำหนดจากเก้าอี้ผู้ชมในสนามให้เว้นช่องว่างซ้ายขวาหน้าหลังเอาไว้ ซึ่งจะทำให้ยอดผู้ชมในสนามลดลงจากความจุ 50% ทางเรามีเป้าหมายเช่นนั้นเพื่อลดความเบียดเสียดลงในสนามครับ"
ท้ายที่สุดแล้วทางประธานมุราอิก็ระบุว่า "เบื้องต้นได้กำหนดให้กลับมาเตะกันอีกครั้งในวันที่ 25 เมษายน วันที่ 2 พฤษภาคมและวันที่ 9 พฤษภาคมตามลำดับ แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความรุนแรงของไวรัสโคโรนาในเวลานั้น ๆ เราประเมินเบื้องต้นว่าสถานการณ์ทุกอย่างไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้ทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่นถ้ามีข้อเรียกร้องจากทางรัฐบาล จากทางกระทรวง จากภูมิภาคหรือจากทางจังหวัดมาล่ะก็ทางเราก็จะน้อมรับปฏิบัติตาม อาจจะมีการตัดสินให้การแข่งขันในบางแห่งไม่มีผู้ชมในสนามหรือเปลี่ยนแปลงตารางการแข่งขันได้อีกด้วย" เป็นการบ่งบอกถึงความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ในอนาคต
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest