ในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา Erling Haland ย้ายจาก Red Bull Salzburg แห่งลีกออสเตรียมาอยู่กับ Borussia Dortmund ด้วยค่าตัว 20 ล้านยูโร(ประมาณ 692 ล้านบาท) โดยเจ้าตัวได้ซัดแฮตทริกในเกมนัดแรกของตัวเองกับบุนเดสลีกาจนเป็นการเปิดตัวได้อย่างสุดอลังการ หลังจากนั้นก็ทำประตูกระจุยกระจายอย่างต่อเนื่อง โดยในเกม UEFA Champions League รอบตัดเชือกนัดแรกในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่เป็นรอบ 16 ทีมสุดท้ายของเลกแรกนั้น ฮาแลนด์ก็ซัด 2 ประตูใส่ PSG จนทำให้ขณะนี้เขาลงสนามทั้งหมด 8 นัดเก็บสถิติยิงไปแล้ว 12 ประตูอย่างสุดดุเดือด

  นอกจากฮาแลนด์แล้วก็ยังมีเจดอน ซานโช่นักเตะอังกฤษวัย 19 ปีที่ฟอร์มเข้าฝักอีกด้วย แม้ช่วงต้นฤดูกาลจะขาดสีสันไปบ้างก็ตาม แต่ฟอร์มของเขาก็ค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนพอผ่านช่วงหยุดฤดูหนาวมานี้เจ้าตัวก็ทำสถิติยิง 4 จ่าย 5 จากการแข่งขัน 6 นัด ผลงานรวมของเขาทั้งหมดนั้นยิง 13 ประตูก็ทำให้เจ้าตัวขึ้นแท่นดาวยิงอันดับ 3 ในลีก ส่วนผลงาน 13 แอสซิสต์ก็ได้ที่ 2 เลยด้วย(นับเมื่อจบการแข่งขันนัดที่ 23)

  ส่วนคนต่อไปที่ถูกคาดหวังว่าจะเป็นตัวตนที่จะเคียงข้างทั้ง 2 คนนั้นคือ Giovanni Reyna นักเตะสัญชาติอเมริกันวัย 17 ปี โดยเจ้าตัวได้ลงสนามในเกม PSG นาที 68 แล้วก็จ่ายแอสซิสต์ให้กับฮาแลนด์ได้ในประตูที่ 2 ของทีมจากจังหวะสวนกลับเสียด้วย

  การลงสนามในวัย 17 ปี 97 วันนั้นทำให้เขาเอาชนะคริสเตียน พูลิซิกที่ปัจจุบันอยู่กับเชลซีที่เคยลงสนามในวัย 17 ปี 362 วันมาก่อน เรน่ากลายเป็นนักเตะอเมริกาที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามในเกมแชมป์เปี้ยนส์ลีก

  ทางสื่อเยอรมัน rbtf ได้ลงข่าวว่า "ตรีศูลหลักสิบ" พร้อมกับลงรายละเอียดดังนี

  "ดอร์ทมุนด์คว้าแชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัยรวดในฤดูกาล 2010-2011 และ 2011-2012 ในตอนนั้นมีนักเตะในยุคทองตั้งแต่โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ชินจิ คากาวะ และอิลคาย กุนโดกัน นอกจากนั้นก็มีโอบาเมยองอีกด้วย ปัจจุบันนี้ดอร์ทมุนด์มีฮาลานด์ ซานโช่และเรน่าที่เป็นตรีศูลของทีม พวกเขากำลังจะนำยุคทองมาสู่ดอร์ทมุนด์"

  ในการแข่งขันบุนเดสลีกานัดที่ 23 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเรน่าถูกส่งลงสนามแทนซานโช่จึงทำให้ไม่ได้มีโอกาสเห็นสามประสานอยู่ในสนามพร้อมกันได้ ทว่าในนัดนี้ก็ได้ประตูจากฮาแลนด์และซากาโดจึงทำให้ทีมชนะ 2-0 ตามหลังจ่าฝูงบาเยิร์นมิวนิก 4 คะแนนและรั้งอันดับ 3 ของลีกไว้ ซึ่งทางหนังสือพิมพ์เยอรมันอย่าง Bild ได้ลงข่าวว่า "ยุคทองใกล้เข้ามาหาเหลืองดำอีกครั้ง" และ "การแย่งแชมป์ของพวกเขาต้องสร้างความประหลาดใจได้แน่"

  ตารางการแข่งขันของดอร์ทมุนด์ต่อจากนี้จะเป็นเกมเจอกับ SC Freiburg(วันที่ 28) และ Borussia MG(7 มีนาคม)ในเกมลีก หลังจากนั้นในวันที่ 11 มีนาคมจะลงแข่งเลกที่ 2 กับ PSG

  ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าสามประสานแห่งดอร์ทมุนด์ที่ถูกเรียกเป็นตรีศูลรุ่นใหม่นั้นจะสามารถโค่นราชันแห่งฝรั่งเศสลงได้หรือไม่ ห้ามพลาดเป็นอันขาดเลย

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest