วันที่ 18 กุมภาพันธ์ตามเวลาท้องถิ่น ทาง FIFA ประกาศว่าจะทำการตรวจสอบทีมชาติเมียนมาร์ โดยหนังสือพิมพ์หัวใหญ่ของเมียนมาร์อย่าง Eleven ได้ลงข่าวว่า ทางนายกสมาคมฟุตบอลของม่าอย่างซอซอได้เปิดเผยว่า "ทางฝ่ายตรวจสอบของ FIFA(สมาพันธ์ฟุตบอลโลก) และ AFC(สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย)ได้เดินทางเข้าประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"

  ประเด็นที่มีการสอบสวนกันนั้นคือการแข่งขันในศึกรอบคัดเลือกครั้งที่ 2 ของศึกฟุตบอลโลกที่กาตาร์ในวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาที่ต้องบุกไปเยือนคีร์กีซสถาน ในนัดดังกล่าวเมียนมาร์แพ้ 0-7 ซึ่งทาง Eleven ระบุว่า "FIFA สงสัยว่ามีการตั้งใจล้มบอลในการแข่งขันกับคีร์กีซสถาน" และ "ให้นักเตะ 8 คนที่ดูวีดีโอการแข่งขันแล้วถามสอบปากคำ"

  ทางข่าวได้ระบุคำพูดของนายกสมาคมว่า "พวกเราเชื่อมั่นว่าพวกเราขาวบริสุทธิ์ ปกติทาง FIFA ก็จะมีการสอบสวนทั่วโลกอยู่แล้ว ในการแข่งขันที่มีผลแพ้ชนะขาดลอยนั้นก็ยิ่งเป็นเป้าตรวจสอบง่ายขึ้น พวกเราพร้อมให้ความร่วมมือในทุกด้าน" เป็นการบ่งบอกถึงความพร้อมในการรับมืออย่างไม่ทุกร้อนอะไร ด้านผลงานของทีมชาติเมียนมาร์นั้นเกมแรกเจอมองโกเลียแพ้ 0-1 ในเกมที่ 2 เจอญี่ปุ่นก็แพ้ 0-2 ซึ่งก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการต่อสู้ของเมียนมาร์ ส่วนในเกมที่ 3 นั้นถึงแม้จะเป็นเกมเยือนก็ตาม แต่ก็พ่ายต่อคีร์กีซสถานอย่างถล่มทลายมากจนน่าตั้งข้อสังเกต

  จากการพ่ายแพ้ในเกมกับคีร์กีซสถานนั้นก็ส่งผลให้เมียนมาร์พ่าย 3 นัดติด ส่งผลให้มีการเด้งกุนซือสัญชาติมอนเตเนโกรอย่าง Miodrag Radulovic ที่ไม่ได้รับความนิยมจากแฟนบอลและตัวนักเตะแล้วดึงกุนซือชาวเยอรมัน Antoine Hey ที่เคยคุมมาก่อนให้กลับมาคุมทีมชาติอีกครั้ง หลังจากนั้นทีมก็เอาชนะทาจิกิสถานและมองโกเลียได้ 2 นัดติดส่งผลให้ชนะ 2 แพ้ 3 นับเป็นการคืนชีพขึ้นมาใหม่ แต่ในเกมกับคีร์กีซสถานนั้นทีมเสียประตูในครึ่งแรกถึง 5 ลูกโดยไม่มีใครโดนใบแดงเลยด้วย

  ทางหนังสือพิมพ์ Eleven ลงข่าวว่า "ภายในทีมมีการเคลื่อนไหวอะไรบางอย่าง ถึงตอนนี้จะยังไม่ทราบถึงข้อเท็จจริง แต่การแข่งขันของลีกในประเทศก็มีการตั้งแง่สงสัยว่ามีการล้มบอลหลายต่อหลายครั้ง ทว่าทางสมาคมฟุตบอลเมียนมาร์ก็ไม่เคยแสดงท่าทีออกมาอย่างแน่ชัด เพราะฉะนั้นหากทาง FIFA จะสงสัยในจุดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร" 

 

  ทีมชาติเมียนมาร์จะบุกมาเยือนญี่ปุ่นในวันที่ 26 มีนาคมนี้ ส่วนในวันที่ 31 ของเดือนเดียวกันก็จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของคีร์กีซสถาน ซึ่งทาง FIFA ระบุว่า "จะมีการลงโทษอย่างรุนแรงกับผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำให้การแข่งขันอยุติธรรมด้วยการตัดสิทธิ์อย่างน้อย 5 ปี" ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าการสอบสวนของทาง FIFA นั้นจะมีผลกระทบอะไรกับเกมที่จะเจอกับทีมชาติญี่ปุ่นหรือไม่

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest