การตัดสินใจออกทีมที่ค้าแข้งมาตลอด 7 ปีครึ่งในวัย 31 ปีแล้วย้ายไปเล่นยังลีกอื่นนั้นนับเป็นการตัดสินใจที่หนักแน่นมาก
โยชิดะ มายะ กัปตันทีมชาติญี่ปุ่นย้ายจากสโมสร Southampton แห่งพรีเมียร์ลีกไปเล่นยืมตัวอยู่กับ Sampdoria ที่เซเรียอาในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะฤดูหนาวที่ผ่านมา สาเหตุสำคัญเกิดจากการที่เขาไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนามกับเซาธ์แฮมป์ตันที่อายุสัญญากำลังจะหมดลงในฤดูกาลนี้
แม้ในช่วงต้นฤดูกาลจะเห็นหน้าตาของโยชิดะอยู่ในสนามหลายครั้ง ทว่านับตั้งแต่เข้าเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมาโยชิดะก็ได้ลงสนามพรีเมียร์ลีกเพียง 5 นาที เจ้าตัวที่นั่งอยู่เก้าอี้ม้านั่งสำรองอย่างต่อเนื่องนั้นจึงตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งที่อิตาลีประเทศแห่งเกมรับ
กุนซือของทีมนักบุญอย่าง Ralph Hasenhüttl ได้ออกมาเปิดเผยถึงการตัดสินใจย้ายทีมของโยชิดะในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะฤดูหนาวผ่านทางหนังสือพิมพ์อังกฤษ Daily Echo ดังนี้ "มันคือการตัดสินใจอย่างรวดเร็วก่อนไฟลท์บินไปลิเวอร์พูล เขาเล่นอยู่กับสโมสรแห่งนี้มายาวนานมาก"
「ไม่สามารถสนองสิ่งที่เขาปรารถนาได้」กุนซือเซาธ์แฮมป์ตันมีความคิดเห็นอย่างไรกับการลาจากของโยชิดะ มายะอย่างแสนสายฟ้าฟาด
カテゴリ:海外日本人
2020/02/11
"เขามีบุคลิกที่สุดยอด"
"เขาเป็นนักเตะคนสำคัญของสโมสรนี้ เพียงแต่ว่าในปัจจุบันนี้ผมไม่สามารถตอบสนองต่อสิ่งที่เขาปรารถนาได้ เขาต้องการเวลาลงสนาม เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่นักเตะจะเดินมาบอกกับกุนซือว่า "ผมรักการเล่นกับที่นี่ แต่การที่ไม่สามารถลงสนามอย่างต่อเนื่องได้นั้นผมจำเป็นต้องการความเปลี่ยนแปลง" นั่นแหละครับ"
ฮาเซนฮุทเทิลยังระบุเพิ่มเติมว่า "ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เข้าใจได้เป็นอย่างดีเลย เพราะฉะนั้นผมจึงอวยพรให้เขามีความสุข" พร้อมกับกล่าวเชียร์โยชิดะว่า
"เขาเป็นคนมีบุคลิกที่สุดยอด เขาคือนักเตะที่สุดยอด"
ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์กับเกมนัดที่ 23 ที่เจอกับ Torino ที่ผ่านมานั้นโยชิดะได้นั่งสำรองแต่ไม่ถูกส่งลงสนาม นอกจากการจะต้องปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ไหนจะเรื่องกำแพงของภาษาแล้ว การจะแย่งตำแหน่ง Lorenzo Tonelli ผู้ย้ายมาในช่วงฤดูหนาวที่มีดีกรีติดทีมชาติมาก่อนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ทว่าโยชิดะก็ตัดสินใจที่จะรับการท้าประลองใหม่เพื่อหาโอกาสให้ตัวเองได้ลงสนามเพิ่มขึ้น ขณะนี้สโมสรซามพ์โดเรียตกรอบที่ 4 ของศึก Coppa Italia เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การแข่งขันที่เหลือเพียงอย่างเดียวคือเซเรียอาทั้งหมด 15 นัด ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าในเวลาอีกประมาณ 3 เดือนข้างหน้านี้โยชิดะจะสามารถคว้าโอกาสมาไว้ในกำมือได้เท่าไรกันแน่
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest