มิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่น ชิบาซากิ กาคุย้ายเข้าสู่สโมสร Deportivo de La Coruna ลีกสองของสเปนในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา แม้ในช่วงแรกเจ้าตัวจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงต่อเนื่อง แต่ทีมผลงานตกต่ำจนมีการปลดกุนซือคนเก่าอย่าง Juan Antonio Anquela ทิ้งไปแล้วแต่งตั้ง Luis César มาคุมทีมแทนจึงทำให้โอกาสลงสนามลดน้อยลง แต่ทีมก็อยู่ในสภาพตกต่ำอย่างยาวนานเหมือนเดิม ช่วงเวลาที่ยากลำบากยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
หลังจากนั้นก็มีการปลดกุนซือลูอิส ซีซาร์อีกครั้งแล้วก็แต่งตั้ง Fernando Vázquez เข้ามาคุมทีมใหม่ การใช้ระบบใหม่ของเขาทำให้บรรยากาศในทีมพลันเปลี่ยนไปโดยทันที โดยในการแข่งขันนัดที่ 22 ในวันที่ 4 มกราคมที่เจอกับ Numancia นั้น ทีมก็คว้าชัยชนะได้ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นให้ทีมสามารถคว้าชัยได้ต่อเนื่อง 4 นัดติด(ถ้ารวมนัดสุดท้ายของกุนซือลูอิสด้วยล่ะก็จะเท่ากับชนะ 5 นัดติด) ทำให้หลังการแข่งขันนัดที่ 25 จบลงทีมพุ่งขึ้นมาที่อันดับ 17 เอาตัวรอดจากโซนตกชั้นได้เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น La Voz de Galicia ได้พูดถึงฟอร์มดีของทีมดังนี้ "สาเหตุที่เดปอร์ติโบคืนชีพขึ้นมาใหม่ได้นั้นเกิดจากการติดตั้งมอเตอร์ชั้นดีที่เรียกชิบาซากิ กาคุ" และ "วาซเคซทำการชุบชีวิตให้ทีมกลับมามีฟอร์มดีเหมือนเกิดใหม่ขึ้นมาอีกครั้งภายใต้กาคุ" เป็นการกล่าวยกย่องเจ้าของเสื้อหมายเลข 22
「เกิดใหม่ภายใต้กาคุ」สื่อท้องถิ่นชื่นชม Deportivo ที่ฟอร์มเยี่ยมด้วยกุนซือคนใหม่และ "การจุติของคีย์แมน" ชิบาซากิ กาคุ
カテゴリ:海外日本人
2020/01/30
หลังเปลี่ยนกุนซือทีมชนะ 4 นัดรวด
นอกจากนั้นทางหนังสือพิมพ์ยังได้หยิบยกเอาคำพูดของกุนซือวาซเคซในการให้สัมภาษณ์ที่เป็นหลักฐานสำคัญว่าเขาเชื่อมั่นชิบาซากิอย่างสมบูรณ์แบบถึงขนาดไหน
"เขาคือมันสมองของทีมชาติญี่ปุ่น เขาเป็นนักเตะที่เปี่ยมไปด้วยไอเดียอันหลากหลายตั้งแต่เล่นให้กับเตเนริเฟ่และเกตาเฟ่ พรสวรรค์ของเขาไม่ได้หายไปไหนมันแค่หลบอยู่เพียงเท่านั้น ถึงมันยังห่างไกลกับความสามารถระดับสูงสุดของเขาก็ตาม แต่คุณภาพของเขานั้นก็ยอดเยี่ยมอย่างไม่มีข้อครหาเลยทั้งสิ้น อยากจะให้เขากลับมาในจุดเดิม หวังว่าเขาจะเติบโตจนสามารถแสดงศักยภาพนั้นออกมาได้ ผมเชื่อมั่นในตัวของกาคุมากเลย"
ชิบาซากิสามารถชนะความเชื่อใจของกุนซือคนใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังเขาหายบาดเจ็บกลับมาค้าแข้งในวันที่ 16 มกราคมในเกมเจอกับ Racing เป็นต้นมานั้นเขาก็ลงสนามตลอด 90 นาทีต่อเนื่อง กลายเป็นแรงขับเคลื่อนคนสำคัญที่ทำให้ทีมเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดหย่อน
ชิบาซากิไม่ได้ถูกชื่นชมเฉพาะในสนามอย่างเดียว สต๊าฟของสโมสรอย่างฮาบี้ เลโกได้ระบุว่า "ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเห็นนักเตะคนไหนที่ขัดรองเท้าสตั๊ดของตัวเองนอกจากกาคุอีกเลย" พอเอาเรื่องดังกล่าวไปบอกเจ้าตัวปุ๊บ "ที่ญี่ปุ่นการขัดรองเท้าเองถือเป็นเรื่องปกตินะ" แล้วเขาก็หัวเราะกลับ ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณความเป็นมืออาชีพของชิบาซากินั้นจะแทรกซึมไปสู่ทีมทีละเล็กน้อยอีกด้วย
ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ตามเวลาท้องถิ่น Deportivo จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ Las Palmas อันดับ 9 ของตาราง ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าทีมที่ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่นั้นจะยังรักษาโมเมนตัมความแรงต่อไปได้อีกหรือไม่
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest