วันที่ 23 มกราคมตามเวลาท้องถิ่น การแข่งขันพรีเมียร์ลีกนัดที่ 24 ของฤดูกาล สโมสรลิเวอร์พูลบุกไปเยือนวูล์ฟแฮมป์ตันอันดับ 7 ของตาราง

  ทีมมีเวลาพักเพียง 4 วันหลังเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่างสมบูรณ์แบบได้ 2-0 วันนี้ลิเวอร์พูลก็ใช้ตัวจริงชุดใหญ่ทั้งซาล่าห์ ฟีร์มิโน่และมาเน่เหมือนเดิม ที่น่าจับตามองคือศูนย์หน้าทีมชาติญี่ปุ่น มินามิโนะทาคุมิได้นั่งสำรองในเกมพรีเมียร์ลีกเป็นเกมที่ 3 ต่อเนื่องแล้ว

  ลิเวอร์พูลที่ลงแข่งในฤดูกาลนี้มา 22 นัด ชนะ 21 เสมอ 1 อยู่ในภาวะไร้พ่ายนั้น ทีมสามารถขึ้นนำได้ก่อนด้วยจังหวะเซ็ตเพลย์เหมือนในฤดูกาลก่อน นาทีที่ 8 อเล็กซานเดอร์ เทรนด์ อาโนลด์เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งขวาแล้วได้เฮนเดอร์สันโหม่งทำประตูขึ้นนำก่อนได้

  หงส์แดงที่ได้ประตูขึ้นนำจากกัปตันทีมนั้นก็ยังทำเกมบุกดุดันอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อกรกับวูล์ฟอย่างคล่องแคล่ว เวลาค่อย ๆ ผลาญไปเรื่อย ๆ

  หลังจากนั้นทั้งสองฝั่งก็มีการสลับเพรสซิ่งกันไปกันมา สามารถแย่งบอลกันได้อย่างดุเดือด จนกระทั่งในนาที 33 โอกาสของมินามิโนะที่ไม่มีใครคาดคิดก็มาถึง มาเน่เกิดอาการบาดเจ็บจึงต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไป

  มินามิโนะที่ลงสนามเป็นนัดแรกในเกมพรีเมียร์ลีกนั้นเขาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกฝั่งซ้ายในระบบ 4-4-2 คอยทำเกมรุกดุดันที่ริมเส้น นอกจากนั้นยังมีสลับตำแหน่งหลายต่อหลายครั้งเพื่อทำเกมรุกร่วมกันกับซาล่าห์และฟีร์มิโน่

  ทีมลิเวอร์พูลที่ออกนำ 1-0 ในช่วงครึ่งแรกนั้น แต่แล้วในช่วงครึ่งหลังนาที 51 ลิเวอร์พูลก็เสียประตูแรกในรอบ 7 นัดจนได้ ผลงานดังกล่าวเกิดจากการบุกทะลุทะลวงฝั่งขวาของทีมแล้วได้ราอุล ซิเมเนซจบสกอร์จนตีเสมอ

  การแข่งขันกลับมาที่ผลเสมออีกครั้ง บรรยากาศของแฟน ๆ เจ้าบ้านหมาป่าคึกคักขึ้นทันตาเห็น ลิเวอร์พูลยังคงบุกหนักอย่างต่อเนื่องเพื่อหวังเก็บ 3 คะแนนให้ได้ จนในครึ่งหลังมินามิโนะก็สลับไปเล่นที่ตำแหน่งขวา บางครั้งก็เล่นเป็นตัวอิสระคอยเรียกหาบอลจากเพื่อนบ้าง ในที่สุดเมื่อนาที 60 มินามิโนะก็ได้รับบอลจ่ายจากซาล่าเขากดเต็มข้ออย่างสุดแรงน่าเสียดายที่ถูกกองหลังฝั่งตรงข้ามบล็อคเอาไว้ได้

  จนพอเข้าสู่นาที 65 เป็นต้นมาสถานการณ์ของทั้งสองฝั่งก็อยู่ในทางตัน ต่างฝ่ายต่างก็มีโอกาสทำประตูได้แต่ผู้รักษาประตูของทั้งสองฝั่งก็ยังโชว์เหนียว ไม่ปล่อยให้มีประตูเกิดขึ้นทั้งสิ้น เวลาไหลผ่านไปเรื่อย ๆ

  แต่แล้วในช่วงท้ายเกมก็เป็นทางฝั่งของหงส์แดงที่แสดงความแข็งแกร่งแล้วคว้าชัยชนะต่อเนื่องสำเร็จ นาที 83 เฮนเดอร์สันจ่ายลูกให้กับฟีร์มิโน่ที่อยู่ในกรอบเขตโทษกดด้วยเท้าซ้ายอย่างรุนแรงลูกพุ่งเสียบสามเหลี่ยมทางซ้ายมือได้อย่างงดงาม

  แม้จะเป็นศึกการแข่งขันที่หืดจับก็ตาม แต่ลิเวอร์พูลที่ชิงโอกาสขึ้นนำได้ในช่วงท้ายเกมนั้นเวลาที่เหลืออยู่ก็ไม่มีจังหวะสุ่มเสี่ยงอะไรเป็นพิเศษ ทีมสามารถคว้าชัยชนะได้ 2-1 ส่งผลให้ลิเวอร์พูลชนะในพรีเมียร์ลีกมาทั้งหมด 14 เกมต่อเนื่อง บันทึกสถิติสุดแข็งแกร่งอย่างการไร้พ่าย 40 นัดมาครองได้

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest