ศึกปะทะกันระหว่าง "สองชินจิ" จบลงที่ขาวและดำ
โอกาซากิผู้ยิงประตูที่ 4 ในฤดูกาลได้ในศึกดาร์บี้แห่งอารากอน
(C) Rafa HUERTA
วันที่ 22 ธันวาคมตามเวลาท้องถิ่น การแข่งขันลาลีกาลีก 2 นัดที่ 21 อันดับ 5 อย่าง Huesca ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ Zaragoza โดยเจ้าบ้านเอาชนะได้ 2-1 ส่งผลให้ขึ้นมาครองอันดับ 3 แทนอย่างเป็นทางการ
โดยในการแข่งขันดาร์บี้แห่งอารากอนนัดนี้ สองนักเตะญี่ปุ่นได้เผชิญหน้ากันซึ่งนั่นก็คือโอกาซากิ ชินจิแห่ง Huesca และคากาวะ ชินจิแห่ง Zaragoza เรียกได้ว่าเป็นศึกปะทะกันระหว่าง "สองชินจิ" ผู้ที่สนิทสนมกันเป็นอย่างยิ่งที่นอกสนามด้วย
โอกาซากิที่เล่นตำแหน่งหน้าเป้าในระบบ 4-3-3 นั้น นาที 16 เขาสามารถซัดลูกเปิดของ Sergio Gomez Martin จนเข้าประตูตุงตาข่ายได้อย่างสวยงาม ทว่า VAR กลับคำตัดสินว่าลูกดังกล่าวเป็นประตูล้ำหน้า
แต่ว่าใน 4 นาทีหลังจากนั้นโกเมซคนเดิมก็เปิดลูกเลียดพื้นให้โอกาซากิคนเดิมที่เอาชนะเซนเตอร์แบ็คฝั่งตรงข้ามแล้วกดเท้าซ้ายพุ่งเข้าประตูไปได้ เจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำก่อน ประตูดังกล่าวกลายเป็นประตูที่ 4 ในฤดูกาลนี้ในรอบ 2 เดือนหลังจากครั้งสุดท้ายในนัดที่ 13 กับ Elche
สื่อสเปนอย่าง AS กล่าวชื่นชมประตูดังกล่าวว่า
"ประตูแรกของศูนย์หน้าชาวญี่ปุ่นนั้นถูกยกเลิกไปด้วย VAR อย่างน่าเสียดาย แต่เขาก็ทำประตูที่สองได้จากลูกเปิดของเซร์ฆิโอ โกเมซ การเคลื่อนไหวอย่างมีความกระฉับกระเฉงของเขานั้นทำให้เอาตัวเองมาด้านหน้ากองหลังอย่างเคลเมนเต้แล้วก็จบสกอร์ได้"
คะแนนของทางหนังสือพิมพ์นั้นได้ให้ 1 ดาวกับนักเตะตัวจริง 7 คนของเจ้าบ้าน(3 ดาวคือเยอะสุด)ที่เรียกว่าเป็นเกณฑ์ให้คะแนนที่โหดหินเอาเรื่อง โดยที่โอกาซากิได้ถึง 2 ดาวเลยด้วย
โดยในการแข่งขันดาร์บี้แห่งอารากอนนัดนี้ สองนักเตะญี่ปุ่นได้เผชิญหน้ากันซึ่งนั่นก็คือโอกาซากิ ชินจิแห่ง Huesca และคากาวะ ชินจิแห่ง Zaragoza เรียกได้ว่าเป็นศึกปะทะกันระหว่าง "สองชินจิ" ผู้ที่สนิทสนมกันเป็นอย่างยิ่งที่นอกสนามด้วย
โอกาซากิที่เล่นตำแหน่งหน้าเป้าในระบบ 4-3-3 นั้น นาที 16 เขาสามารถซัดลูกเปิดของ Sergio Gomez Martin จนเข้าประตูตุงตาข่ายได้อย่างสวยงาม ทว่า VAR กลับคำตัดสินว่าลูกดังกล่าวเป็นประตูล้ำหน้า
แต่ว่าใน 4 นาทีหลังจากนั้นโกเมซคนเดิมก็เปิดลูกเลียดพื้นให้โอกาซากิคนเดิมที่เอาชนะเซนเตอร์แบ็คฝั่งตรงข้ามแล้วกดเท้าซ้ายพุ่งเข้าประตูไปได้ เจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำก่อน ประตูดังกล่าวกลายเป็นประตูที่ 4 ในฤดูกาลนี้ในรอบ 2 เดือนหลังจากครั้งสุดท้ายในนัดที่ 13 กับ Elche
สื่อสเปนอย่าง AS กล่าวชื่นชมประตูดังกล่าวว่า
"ประตูแรกของศูนย์หน้าชาวญี่ปุ่นนั้นถูกยกเลิกไปด้วย VAR อย่างน่าเสียดาย แต่เขาก็ทำประตูที่สองได้จากลูกเปิดของเซร์ฆิโอ โกเมซ การเคลื่อนไหวอย่างมีความกระฉับกระเฉงของเขานั้นทำให้เอาตัวเองมาด้านหน้ากองหลังอย่างเคลเมนเต้แล้วก็จบสกอร์ได้"
คะแนนของทางหนังสือพิมพ์นั้นได้ให้ 1 ดาวกับนักเตะตัวจริง 7 คนของเจ้าบ้าน(3 ดาวคือเยอะสุด)ที่เรียกว่าเป็นเกณฑ์ให้คะแนนที่โหดหินเอาเรื่อง โดยที่โอกาซากิได้ถึง 2 ดาวเลยด้วย
ส่วนทางคากาวะนั้นเขาลงเป็นมิดฟิลด์ฝั่งซ้ายตัวจริงในระบบ 4-2-2 ไฮไลท์ของเขาในนัดนี้คือการยิงฟรีคิกแล้วลูกชนคาน แต่แล้วในนาที 57 ก็ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามไป เจ้าตัวต้องจำใจเดินออกจากสนามไปด้วยใบหน้าอึดอัดทั้งที่เครื่องยังไม่ร้อน
ทางการ AS ก็วิจารณ์อย่างหนักหน่วง ให้คากาวะเทียบเท่ากับ Julian Delmas และ Alberto Guitian ที่ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามไปด้วยคะแนน "0 ดาว" ส่วนหนึ่งก็เกิดจากมีเวลาอยู่ในสนามน้อยไปด้วย แต่ก็ได้คะแนนต่ำสุดแบบนี้ก็นับว่าเหลือเชื่อเอาเรื่อง
การเผชิญหน้ากันระหว่างสองชินจิอีกครั้งนับตั้งแต่สมัยที่คากาวะยังอยู่ดอร์ทมุนด์และโอกาซากิยังอยู่ Mainz ผลลัพธ์การแข่งขันในนัดนี้จบลงที่ขาวและดำ
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest
【VIDEO】ประตูที่ 4 ในฤดูกาลของโอกาซากิ ชินจิ&จังหวะยิงฟรีคิกชนคานของคากาวะ ชินจิอยู่ทางนี้
【VIDEO】พักบอลสุดสวยแล้วก็จ่ายบอลขั้นเทพ! แอสซิสต์แรกในลีกาของคากาวะ ชินจิอยู่ทางนี้
【PHOTO】คัดเลือกภาพถ่ายของคากาวะ ชินจิแห่งซาราโกซ่ามาให้รับชม! จังหวะดีใจสุดกู่ก็มีด้วย
次ページ【VIDEO】ประตูที่ 4 ในฤดูกาลของโอกาซากิ ชินจิ&จังหวะยิงฟรีคิกชนคานของคากาวะ ชินจิอยู่ทางนี้