วันที่ 18 ธันวาคม การแข่งขันทัวร์นาเมนต์ EAFF E1 นัดสุดท้ายปิดฉากลง การแข่งขันคู่ทีมชาติเกาหลีใต้และทีมชาติญี่ปุ่นเตะกันที่สนาม Busan Asiad Main Stadium

  ก่อนการแข่งขันทีมฟุตบอลหญิงนาเดชิโกะเจแปนคว้าแชมป์มาครองได้ ส่วนทีมชายนั้นก็หวังจะแสดงความเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในพื้นที่เอเชียตะวันออกให้ได้ด้วยการคว้าแชมป์สมัยที่ 2 ในรอบ 3 ปี หากคว้าแชมป์ได้ก็จะทำให้ทีมชาติญี่ปุ่นคว้าแชมป์กลับบ้านทั้งชายและหญิง มิหนำซ้ำยังเป็นคู่ปรับตลอดกาลอย่างเกาหลีใต้อีกด้วย ทว่าครึ่งแรกทีมชาติญี่ปุ่นก็เสียประตูไปจากผลงานการยิงของ Hwang In-beom ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถยิงคืนได้แม้กระทั่งลูกเดียว

  นักข่าวแวดวงกีฬาเอเชีย โจนาธาน ไวท์จากหนังสือพิมพ์ฮ่องกงฉบับภาษาอังกฤษ South China Morning Post ได้แสดงความคิดเห็นถึงการที่ประเทศเกาหลีใต้คว้าแชมป์จ้าวแห่งเอเชียตะวันออก 3 ใน 5 สมัยดังนี้

  "ท่ามกลางการแข่งขันที่มีผู้ชมอยู่ในสนามเป็นจำนวนสูงสุดนั้น ประเทศเจ้าภาพที่มีผู้ชมในสนามอย่างเนืองแน่นสามารถเฝ้ามองวินาทีที่เกาหลีใต้สามารถบดขยี้และคว้าชัยชนะต่อทีมชาติญี่ปุ่นมาครองได้

  เกาหลีใต้ดุเดือดตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่มการแข่งขันดังขึ้น แสดงความกระหายในการทำประตูออกมาเป็นอย่างยิ่ง คอยสร้างโอกาสต่อเนื่องแต่ก็มียิงชนคานไป 2 ครั้ง แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็สามารถชิงทำประตูได้ในนาที 28 ด้วยความสามารถในการแหวกผ่านเกมรับของญี่ปุ่นแล้วก็ยิงประตูตุงตาข่ายได้อย่างงดงาม"

  จากนั้นก็ทำการวิจารณ์ทีมชาติญี่ปุ่นโดยกุนซือโมริยาสุดังนี้

  "ไฮไลท์ของญี่ปุ่นในครึ่งแรกที่พอจะพูดถึงได้นั้นก็คงมีเพียงแค่ลูกยิงน่าลุ้นของสุซุกิ มุซาชิเท่านั้น จนพอเข้าครึ่งหลังเกมรุกก็เริ่มขับเคลื่อน ญี่ปุ่นบุกหนักเพื่อหวังจะชูถ้วยแชมป์ แสดงความดุดันออกมา การเอาจริงของนักเตะทีมชาติญี่ปุ่นพลังหนุ่มนั้นดูมีเสน่ห์มากเหลือเกิน แต่กว่าแนวหน้าจะเริ่มกดดันได้นั้นมันก็สายไปแล้ว เวลาน้อยเกินไปจริง ๆ ที่จะทวลประตูคืนมา"

  อัตราการครองบอลนั้นญี่ปุ่นเหนือกว่าที่ 52% ต่อ 48% จำนวนครั้งในการจบสกอร์ของเกาหลีใต้ที่ 14 ลูกแต่ญี่ปุ่นเพียง 6 ลูกเท่านั้น ซึ่งนักข่าวโจนาธานก็กล่าวสรุปดังนี้

  "ตัวเลขดังกล่าวนี้ไม่ได้มีผลอะไรกับการแข่งขันนัดตัดสินเท่าไรนัก สิ่งที่มีความหมายมีเพียงแค่เลข 1 ที่มาจากประตูเพียงหนึ่งเดียวในเกมนี้ของฮวางอินเบียม ถึงทีมชาติญี่ปุ่นจะแสดงความพยายามออกมาก็ตามแต่ก็ไม่สามารถทำประตูได้ มีแค่ผลลัพธ์ของความพยายามในการทำประตูเพียงอย่างเดียว"

  การแข่งขันที่ใช้เฉพาะตัวนักเตะในประเทศ ไม่เรียกนักเตะที่ค้าแข้งอยู่ต่างแดนให้มาร่วมศึก สำหรับทีมซามูไรบลูที่มีโอกาสในการคว้าแชมป์อยู่เพียงเอื้อมมือแต่ไม่สามารถทำได้ในศึกปะทะเกาหลีใต้นั้นก็ทำให้ต้องกลับบ้านไปด้วยความชอกช้ำเปรียบเสมือนเมื่อ 2 ปีก่อนที่พ่าย 1-4 ไป

【JAPANESE REPRESENTATIVE PHOTO】SOUTH KOREA １-０ JAPAN ｜ครึ่งหลังฮึดสู้หนักแต่ก็ยังพ่ายกลับบ้าน รางวัลขวัญใจสปอนเซอร์และดาวซัลโวคือสองคนนั้น!

【PHOTO】เหล่าสาวสวยของสองประเทศในศึกเกาหลีญี่ปุ่นที่สร้างสีสัน! เหล่าแฟน ๆ สุดสวยสุดน่ารักอยู่ทางนี้!

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest