เรอัลมาดริดเริ่มแสดงสัญญาณของการฟื้นสภาพคืนกลับมา โดยในเกมเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ต้องเจอกับ PSG ในศึก UEFA Champions League รอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 5 ที่ถึงแม้จะเสมอ 2-2 อย่างน่าเจ็บใจนั้น เกมก็ตกเป็นของเจ้าบ้านอย่างสมบูรณ์แบบจนกระทั่งมีการเปลี่ยนตัวกันในช่วงครึ่งหลัง

  หนึ่งในพระเอกคนสำคัญที่ช่วยให้ทีมแสดงฟอร์มดีออกมานั้นคือมิดฟิลด์วัย 21 ปีแห่งทีมชาติอุรุกวัย Federico Valverde อย่างในเกมที่เจอกับ PSG นั้นหลังจากที่เขาถูกเปลี่ยนตัวออกทีมที่กำลังอยู่ในฟอร์มดีก็เสียประตูจนจบลงด้วยผลเสมอ กล่าวได้ว่ามันกลายเป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากแรงโน้มถ่วงที่เปลี่ยนไปเลยก็ว่าได้

  อันที่จริงเขาก็มีฟอร์มที่ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าท่ามกลางเหล่านักเตะที่ครบเครื่องของมาดริดนั้นตัวตนของเขาก็เลยดูเบาบางลงไปหน่อย อีกทั้งเขายังเป็นนักเตะตัวปั้นที่เติบโตมาจากอคาเดมีของสโมสรเหมือนกันกับ Marco Asensio และ Dani Ceballos(เล่นยืมตัวอยู่อาร์เซนอล) ที่ยังมีอายุไม่มากนัก นอกจากนั้นเขาก็ยังถูกเงาของนักเตะบราซิลค่าตัวแพงอย่างทั้ง Vinícius Júnior รวมไปถึง Rodrygo กลบไปอีกด้วย

  นอกจากนั้นเมื่อกุนซือซีเนอดีน ซีดานกลับมาคุมทีมอีกครั้งในเดือนมีนาคมเจ้าตัวก็ได้รับโอกาสให้ลงสนามเพิ่มขึ้น ทั้งยังแย่งตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวขวาที่เป็นตำแหน่งประจำของผู้ทรงพลังอย่างลูก้า โมดริชมาได้สำเร็จ

  อย่างในเกมที่เจอกับ PSG เขาก็ประสานงานกับแบ็คขวาของทีมอย่างดาเนียล การ์บาฆัล ในการหยุดยั้งหัวหอกของฝั่งตรงข้ามอย่างทั้งอังเคล ดิมาเรียและคีเลียน เอ็มบาปเป้ นอกจากนั้นยังคอยช่วยสนับสนุนมิดฟิลด์ตัวรับอย่างคาเซมิโร่ พอได้บอลทีไรก็จะนำเอาเอกลักษณ์ของตัวเองออกมาด้วยการขับเคลื่อนบอลทะลุทะลวงไปด้านหน้าจนสร้างโอกาสให้ทีมจบสกอร์ได้ เรียกได้ว่าเขาเป็นวงล้อใหญ่ที่ช่วยเกมรุกรับของทีมอย่างมหาศาลนั่นเอง

  เจ้าตัวเคลื่อนไหวเป็นวงกว้างในสนามเพื่อช่วยเกมรุกรับ การมีส่วนร่วมในพื้นที่ของทุกเกมนั้นคือผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตามแบบฉบับที่ซีดานต้องการ เพราะฉะนั้นจึงทำให้ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมานั้นซีดานต้องการจะคว้าพอล ป็อกบาแห่งสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดให้เข้ามาร่วมทีมให้ได้เหลือเกิน
 

  แรกเริ่มเดิมทีในเกมรุกของมาดริดนั้นก็มีผู้เล่นที่ทำเกมรุกตั้งแต่เซร์ฆิโอ รามอส(เซนเตอร์แบ็คฝั่งซ้าย) มาร์เซโล่(แบ็คซ้าย) โทนี่ โครส(มิดฟิลด์ซ้าย) เอแดน อาซาร์(ปีกซ้าย) รวมไปถึงศูนย์หน้าตัวเป้าอย่างคาริม เบนเซม่าที่ถนัดการไปเติมเกมจากฝั่งซ้ายอีกด้วย แม้โมเมนตัมของทีมจะอยู่ทางฝั่งซ้ายเป็นหลักก็ตาม แต่การมีอยู่ของบัลเบร์เด้ที่กลายมาเป็นไดนาโมด้วยโมเมนตัมอย่างมหาศาลอีกทั้งยังช่วยรักษาสมดุลในแดนกลางนั้นก็ก่อให้เกิดขุมพลังใหม่ในเกมรุกรับฝั่งขวาเป็นอย่างยิ่ง

  "มันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อมากจริง ๆ การได้เล่นที่สนามซานติอาโก้เบอร์นาบิวนั้นเป็นความฝันของผมมาโดยตลอดเลย ตอนนี้ก็ยังรู้สึกสนุกกับมันเป็นอย่างมาก ผมตั้งใจฟังคำแนะนำของเพื่อนร่วมทีมแล้วอยากจะคว้าโอกาสมาครองให้ได้จริง ๆ"

  แม้เจ้าตัวจะแสดงท่าทีออกมาอย่างถ่อมตัวก็ตาม แต่ในขณะนี้ในสภาพของทีมที่กำลังอยู่ในช่วงขาลงหลังจากที่โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมด้วยการคว้าแชมป์ UEFA สามสมัยต่อเนื่องได้นั้น พลังหนุ่มของเขารวมไปถึงบุคลิกที่มีความกระฉับกระเฉงนั้นก็กลายเป็นตัวกระตุ้นให้ทีมเดินเครื่องได้อย่างมหาศาล ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าเจ้าหนูที่แทบจะเรียกเป็นความหวังใหม่ของทีมในฤดูกาลนี้หลังจากที่ผ่านมา 3 เดือนแล้วนั้นจะสามารถกระพือปีกโผบินออกมาอย่างสำเร็จได้หรือไม่

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest
ช่วยเรียบเรียงโดย ชิโมมูระ มาซายูกิ