มิอุระ คาซึโยชิ "คิงคาซึ" ที่ได้ลงสนามเกมลีกเป็นนัดที่ 3 ของฤดูกาลนี้นับจากวันที่ 7 เมษายนเป็นต้นมา เจ้าตัวบันทึกสถิติใหม่ของผู้เล่นอายุมากที่สุดที่ 52 ปี 8 เดือน 26 วัน
ภาพโดย: โมโตกิ อากิระ(Soccer Digest Photo Team)
วันที่ 24 พฤศจิกายน นับตั้งแต่เวลา 14.00 นาฬิกาเป็นต้นมา การแข่งขันนัดสุดท้ายของ J2 ที่มีกันทั้งหมด 11 คู่ได้เริ่มเตะกัน โดยการแข่งขันที่สนาม Nippatsu Mitsuzawa นั้น ทางสโมสร Yokohama FC ที่อันดับ 2 นั้นต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ Ehima FC โดยเจ้าบ้านเอาชนะได้ 2-0
หากคว้าชัยชนะในนัดนี้ได้ก็จะเป็นการการันตีอันดับ 2 อย่างเป็นทางการซึ่งเป็นการเลื่อนชั้นขึ้นไปยัง J1 โดยอัตโนมัติ โดยหนึ่งในช่วงไคลแมกซ์ของเกมนี้นั้นคือนาที 87 ของการแข่งขันที่ทีมโยโกฮาม่านำอยู่ 2-0 ทีมได้ตัดสินใจส่งเจ้าของเสื้อหมายเลข 11 ลงสนาม เขาก็คือ KING KAZU มิอุระ คาซึโยชิ เป็นไม้ที่ 3 ของทีมในวันนี้
คาซึที่วิ่งไล่ตามบอลตลอดเวลาที่เหลืออยู่นั้น เมื่อสิ้นเสียงนกหวีดดังขึ้นทีมก็คว้าชัยชนะในเกมนี้แล้วก็เลื่อนชั้นขึ้น J1 ได้สำเร็จ
นับตั้งแต่ที่สโมสรโยโกฮาม่า FC ร่วงตกลงมายัง J2 เป็นต้นมานั้น ทางคิงคาซึที่ได้กลับขึ้นมา J1 อีกครั้งในรอบ 13 ปีได้ให้สัมภาษณ์หลังการแข่งขันจบลงดังนี้
"พูดตามตรงแล้ว การได้เล่นต่อหน้าแฟน ๆ เป็นจำนวนมากที่บ้านของตัวเองแล้วเลื่อนชั้นขึ้นมาได้แบบนี้มันเป็นอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเลยครับ ในอีกทางหนึ่งผมก็ไม่ได้นั่งสำรองค่อนข้างหลายนัดด้วย วันวานผ่านพ้นไปโดยที่ผมไม่ได้ลงสนาม แน่นอนครับว่ามันก็ต้องมีความรู้สึกเจ็บใจบ้างเป็นธรรมดาอยู่แล้ว"
หากคว้าชัยชนะในนัดนี้ได้ก็จะเป็นการการันตีอันดับ 2 อย่างเป็นทางการซึ่งเป็นการเลื่อนชั้นขึ้นไปยัง J1 โดยอัตโนมัติ โดยหนึ่งในช่วงไคลแมกซ์ของเกมนี้นั้นคือนาที 87 ของการแข่งขันที่ทีมโยโกฮาม่านำอยู่ 2-0 ทีมได้ตัดสินใจส่งเจ้าของเสื้อหมายเลข 11 ลงสนาม เขาก็คือ KING KAZU มิอุระ คาซึโยชิ เป็นไม้ที่ 3 ของทีมในวันนี้
คาซึที่วิ่งไล่ตามบอลตลอดเวลาที่เหลืออยู่นั้น เมื่อสิ้นเสียงนกหวีดดังขึ้นทีมก็คว้าชัยชนะในเกมนี้แล้วก็เลื่อนชั้นขึ้น J1 ได้สำเร็จ
นับตั้งแต่ที่สโมสรโยโกฮาม่า FC ร่วงตกลงมายัง J2 เป็นต้นมานั้น ทางคิงคาซึที่ได้กลับขึ้นมา J1 อีกครั้งในรอบ 13 ปีได้ให้สัมภาษณ์หลังการแข่งขันจบลงดังนี้
"พูดตามตรงแล้ว การได้เล่นต่อหน้าแฟน ๆ เป็นจำนวนมากที่บ้านของตัวเองแล้วเลื่อนชั้นขึ้นมาได้แบบนี้มันเป็นอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเลยครับ ในอีกทางหนึ่งผมก็ไม่ได้นั่งสำรองค่อนข้างหลายนัดด้วย วันวานผ่านพ้นไปโดยที่ผมไม่ได้ลงสนาม แน่นอนครับว่ามันก็ต้องมีความรู้สึกเจ็บใจบ้างเป็นธรรมดาอยู่แล้ว"
ทว่าท้ายที่สุดทีมก็เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นใน J1 ได้อย่างเป็นทางการโดยเจ้าตัวได้เผยถึงความยากดังกล่าวว่า
"อย่างในวันนี้ก็รู้สึกเกร็งมากก่อนที่จะได้ลงแข่ง นี่เป็นครั้งแรกเลยครับ คือปกติก็ตื่นเต้นอยู่แล้ว แต่ตื่นเต้นจากการที่นั่งสำรองนี่เป็นครั้งแรกจริง ๆ เลยครับ จริงอยู่ที่ในวันนี้ต่อให้ไม่ชนะก็ยังไปลุ้นกันในเพลย์อ๊อฟได้เหมือนเดิม แต่ถ้าต้องลงเล่นในเพลย์อ๊อฟนี่ก็จะต้องสัมผัสกับความยากถึงสองรอบ ในเมื่อมาถึงจุดนี้แล้วก็ไม่ควรที่จะปล่อยโอกาสให้สูญเปล่าไปจริง ๆ แต่เป็นเพราะโคคิและมัตสึโอะที่ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้มาก ๆ เลย พวกมัตสึโอะนี่เขาไม่เกร็งกันเลยครับ ช่างพึ่งพาได้มากเหลือเกิน ส่วนโคคิก็บอกด้วยว่าแล้วผมจะทำให้ดูเอง แต่ที่แปลกใจมากจริง ๆ คือการที่ตัวผมเองพอได้ลงสนามแล้วมันกลับหายเกร็งไปเลยล่ะครับ รู้สึกสบายใจมากเลย"
ครั้งสุดท้ายที่ได้ลงสนามในเกมเจลีกนั้นก็คือตอนที่อายุ 40 ปี หากฤดูกาลหน้าได้ลงสนามล่ะก็จะทำให้บันทึกสถิติใหม่ด้วยวัย 53 ปีกับ J1
"ในฤดูกาลนี้ผมมีโอกาสลงสนามน้อยมากเลยจึงไม่สามารถเก็บสถิติทำประตูสองปีติดได้ ก็เลยอยากจะตั้งเป้าใน J1 ให้ได้ครับ" ส่วนเรื่องการเจรจาต่อสัญญากับทางสโมสรนั้น "ยังไม่ได้พูดคุยกันถึงเรื่องนั้น" จากนั้นคิงคาซึก็พูดถึงความทะเยอทะยานในฤดูกาลหน้าออกมาดังนี้
"มันอาจจะฟังเป็นเรื่องที่ยากที่จะเชื่อนะครับ แต่ผมมาถึงจุดนี้ได้เพราะอยากที่จะเก่งขึ้นให้ได้ในทุกวัน เพราะฉะนั้นผมจึงปรึกษากับทั้งนักเตะอายุน้อยและโค้ชเสมอ ซึ่งนั่นกลายเป็นความกระหายที่ทำให้ผมเล่นมาได้จนถึงทุกวันนี้"
แววตาของคิงคาซึนักเตะผู้มีอายุมากที่สุดในเจลีกนั้นมองไปจนถึงเรื่องของการแข่งขันในฤดูกาลหน้าเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าเจ้าตัวก็ต้องทำการฝึกซ้อมส่วนบุคคลเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันในช่วงอ๊อฟซีซันที่จัดขึ้นเป็นประจำตามธรรมเนียมในทุก ๆ ปีเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นในฤดูกาลหน้านี้ห้ามละสายตาไปจากคิงคาซึเป็นอันขาดเลย
ข่าวโดย วาตานาเบะ ฮิโรกิ(Soccer Digest Editorial Desk)