ใครจะไปเชื่อว่ายอดกุนซือที่ฤดูกาลก่อนนำทีมไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ UEFA Champions League ได้นั้นจะพาทีมตกต่ำจนถึงอันดับที่ 14 ของตารางพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้จนสุ่มเสี่ยงที่จะโดนปลด ซึ่งในวันที่ 19 พฤศจิกายนล่าสุดนี้เขาก็ถูกปลดออกจากการคุมทีมอย่างเป็นทางการ

  ปอเช็ตติโน่เข้ามาคุมทีมสเปอร์เริ่มตั้งแต่ฤดูร้อนปี 2014 จากผลงานการคุมทีมที่แสนยอดเยี่ยมกับเซาธ์แฮมป์ตันที่ผ่านมา โดยในปีแรกก็พาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศถ้วยลีกคัพ ส่วนตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นมาก็พาทีมให้ติด Top4 ของพรีเมียร์ลีกได้มาโดยตลอด ในฤดูกาล 2016-2017 ก็สร้างสถิติด้วยการพาทีมสู่อันดับ 2 นอกจากนั้นในฤดูกาลก่อนก็พาทีมไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศของศึก UEFA Champions League ได้อีกด้วย

  ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาที่ปอเช็ตติโน่คุมทีมนั้นเขาฟูมฟักนักเตะขึ้นมาเป็นจำนวนไม่น้อย หนึ่งในคนที่แสดงผลงานเติบโตอย่างก้าวกระโดดนับตั้งแต่ฤดูกาล 2015-2016 นั้นคือเดลี อาลี จากเหตุการณ์การปลดกุนซือดังกล่าวนั้นจึงทำให้เดลี อาลีแนบภาพของเขากับกุนซือขึ้นทางทวิตเตอร์แล้วก็แสดงความขอบคุณที่มีต่อยอดกุนซือชาวอาร์เจนตินาในฐานะ "เพื่อน" คนหนึ่ง

  "ผมขอบคุณชายคนนี้ได้อย่างไม่หมดสิ้นเลย เขาสอนผมมากมายแล้วผมก็รู้สึกขอบคุณในทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำให้กับผม ขอให้โชคดีและหวังว่าจะได้เจอคุณใหม่อีกครั้งนะสหาย"

  การแถลงการณ์ของ Supperters' Trust ก็ระบุว่า "ช็อคมาก เศร้ามาก" "พวกเราจะไม่มีวันลืมเลือนความสุขที่เขามอบให้ตลอดชีวิตเลย" มีทั้งความตกใจและความรู้สึกขอบคุณ แต่ก็ยังมีการตั้งแง่สงสัยถึงแนวทางการบริหารของสโมสรเป็นอย่างยิ่ง "ทำไมจึงมาปลดเอากลางทางแบบนี้ล่ะ ไม่ทำตั้งแต่แรกไปเลย"

  นอกจากนั้น Toby Alderweireld ที่ลงฟาดแข้งในฐานะทีมชาติเบลเยียมของศึก EURO2020 กับทีมชาติไซปรัสนั้น หลังการแข่งขันจบลงเขาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่าง Sky Sports ว่า "มันเป็นข่าวใหญ่มาก ผมเพิ่งรู้หลังจบเกมนี่แหละ" จากการรายงานของทาง Evening Standard

  "คือมันก็เป็นส่วนหนึ่งในวงการฟุตบอลแหละนะ แต่การดูกุนซือจากไปนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย ผมก็ไม่รู้ด้วยว่าจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อ สำหรับผมแล้วคือตกใจมาก คงต้องใช้เวลาอีกพักหนึ่งกว่าจะทำใจให้สงบลงได้"

  นอกจากนั้นทางอัลเดอร์ไวเรลด์ก็ระบุว่า "นี่คือการตัดสินของทางสโมสร พวกเราจึงจำเป็นที่จะต้องทำใจรับให้ได้เท่านั้น ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเปลี่ยนแปลงสถานการณ์นี้โดยไวที่สุด พวกเราได้ทำสิ่งใหญ่ ๆ มาร่วมกันแล้ว เพราะฉะนั้นพวกเราจึงรู้สึกซาบซึ้งในทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำให้กับสโมสร เขาช่วยยกระดับสโมสรของพวกเราให้ไปอีกขั้น" จากนั้นก็กล่าวเพิ่มเติมว่า

  "สำหรับผมแล้วนี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้สัมผัสประสบการณ์การเปลี่ยนตัวกุนซือ แต่มันก็ประหลาดมากเลย คือผมพูดไม่ถูกจริง ๆ ว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร สำหรับผมนั้นผมก็เพียงแค่พยายามอย่างหนักต่อไป ผนึกกำลังกับทีมแล้วก็พยายามเปลี่ยนสถานการณ์ให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้"

  ก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงนั้นคือการแต่งตั้งกุนซือ โดยในวันถัดมาหลังประกาศเด้งปอเช็ตติโน่นั้นก็มีการแต่งตั้งโจเซ่ มูรินโญ่เข้ามาคุมทีมทันที

  ทว่าอัลเดอไวเรลด์นั้นคาดคะเนไว้ก่อนแล้วว่าสเปเชียลวันจะเข้ามาคุม

  "สเปอร์เป็นสโมสรใหญ่ แน่นอนว่ากุนซือระดับใหญ่ก็ต้องมาคุมแน่นอน"

  ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าเหล่านักเตะสเปอร์ที่เติบโตได้อย่างมหาศาลภายใต้การคุมทีมของปอเช็ตติโน่นั้นจะสามารถแสดงผลงานอะไรออกมาภายใต้การคุมของยอดกุนซือคนใหม่ที่แสนพิเศษได้หรือไม่

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest