"ตราบใดที่ร่างกายกับใจยัง..."
ฮาเซเบะพูดถึงความเปลี่ยนแปลงของทีมและอาชีพต่อจากนี้
(C) Getty Images
ฮาเซเบะ มาโคโตะ นักเตะแห่งสโมสร Eintracht Frankfurt แห่งบุนเดสลีกา ปัจจุบันในวัย 35 ปีเขาก็ยังเป็นกำลังสำคัญหลักของทีมทั้งยังเป็นเสาหลักของทีมผู้ครองตำแหน่งอย่างเหนียวแน่นด้วย
ถึงสัญญาของฮาเซเบะกับสโมสรจะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน 2020 ก็ตาม แต่ก็คาดการณ์กันว่าทางสโมสรกำลังเดินเรื่องเตรียมต่อสัญญา ล่าสุดในช่วงวันหยุดพักเกมทีมชาตินี้ทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Frankfurter Rundschau ได้นัดสัมภาษณ์ฮาเซเบะ โดยนักเตะจอมเก๋าวัย 35 ปีคนนี้ได้พูดถึงสภาพของทีมและเรื่องการค้าแข้งของเขาตามความรู้สึกตรง ๆ ออกมา
ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา แฟรงก์เฟิร์ตปล่อยขุมกำลังในเกมรุกคนสำคัญไปทั้ง Luka Jović, Ante Rebić และ Sébastien Haller จึงทำให้แนวทางการต่อสู้ในทีมนั้นเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล
"คุณเป็นนักเตะวัยเก๋าที่ถูกเรียกเป็นเบ็คเคินเบาเออร์ของญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นผู้เล่นคนที่มีความสำคัญมากที่สุดในทีม" ฮาเซเบะที่ถูกกล่าวชื่นชมดังนั้น จากนั้นเมื่อถามถึงผลงานของทีมในฤดูกาลนี้เจ้าตัวก็ตอบว่า "ผมคิดว่ามันก็ไม่ดีครับ แต่มันก็ไม่ได้แย่" แต่ถึงกระนั้นเป้าหมายในฤดูกาลนี้คือให้ทีมติด Top7 เพื่อคว้าโควต้าไปแข่งเวทียุโรปทั้งแชมป์เปี้ยนส์ลีกหรือยูโรป้าให้ได้
ถึงสัญญาของฮาเซเบะกับสโมสรจะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน 2020 ก็ตาม แต่ก็คาดการณ์กันว่าทางสโมสรกำลังเดินเรื่องเตรียมต่อสัญญา ล่าสุดในช่วงวันหยุดพักเกมทีมชาตินี้ทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Frankfurter Rundschau ได้นัดสัมภาษณ์ฮาเซเบะ โดยนักเตะจอมเก๋าวัย 35 ปีคนนี้ได้พูดถึงสภาพของทีมและเรื่องการค้าแข้งของเขาตามความรู้สึกตรง ๆ ออกมา
ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา แฟรงก์เฟิร์ตปล่อยขุมกำลังในเกมรุกคนสำคัญไปทั้ง Luka Jović, Ante Rebić และ Sébastien Haller จึงทำให้แนวทางการต่อสู้ในทีมนั้นเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล
"คุณเป็นนักเตะวัยเก๋าที่ถูกเรียกเป็นเบ็คเคินเบาเออร์ของญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นผู้เล่นคนที่มีความสำคัญมากที่สุดในทีม" ฮาเซเบะที่ถูกกล่าวชื่นชมดังนั้น จากนั้นเมื่อถามถึงผลงานของทีมในฤดูกาลนี้เจ้าตัวก็ตอบว่า "ผมคิดว่ามันก็ไม่ดีครับ แต่มันก็ไม่ได้แย่" แต่ถึงกระนั้นเป้าหมายในฤดูกาลนี้คือให้ทีมติด Top7 เพื่อคว้าโควต้าไปแข่งเวทียุโรปทั้งแชมป์เปี้ยนส์ลีกหรือยูโรป้าให้ได้
จากนั้นนักข่าวก็ถามว่า "คิดว่าจะเล่นในฐานะนักเตะอีกนานแค่ไหนเหรอ?" ฮาเซเบะจึงตอบดังนี้
"พูดตามตรงแล้วผมก็ตอบไม่ได้หรอกครับ แต่ผมคิดว่าจะเล่นต่อไปตราบใดที่ร่างกายและหัวใจยังรู้สึกสนุกอยู่ครับ ถ้าต่อจากนี้ทีมสลับไปเล่นเป็นแผน 4 หลังล่ะก็ ผมอาจจะจำเป็นต้องแย่งตำแหน่งในฐานะมิดฟิลด์ตัวรับแทนครับ ถ้ามันเป็นตำแหน่งที่ต่างไปจากเดิมล่ะก็ผมคงลำบากแน่นอนเลย
ผมไม่คิดว่าผมจะได้เล่นไปตลอดกาลอยู่แล้วครับ แต่ถ้าเอาคำตอบ ณ ปัจจุบันนี้คือผมอยากทุ่มทุกสิ่งเพื่อ "เล่นต่อไป" ครับ ตามกำหนดแล้วในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมคงมีการพูดคุยกับทางสโมสรครับ"
จากนั้นก็ถูกถามว่า "ถ้าแขวนสตั๊ดแล้วจะอยู่แฟรงก์เฟิร์ตต่อหรือไม่?" มาโคโตะจึงประกาศเจตนารมณ์ที่จะอาศัยอยู่เยอรมันออกมาอย่างหนักแน่นดังนี้
"ก็ยังไม่ทราบหรอกครับ... ในกรณีที่เซ็นสัญญาเป็นนักเตะกับไอน์ทรัคท์ไม่ได้แล้ว มันคงจำเป็นที่ผมจะต้องทำอะไรสักอย่างนอกเหนือจากนักเตะแล้วล่ะครับ(หัวเราะ) ไม่ว่าอย่างไรก็ดี ผมคิดว่าผมคงอยู่เยอรมันต่อไปครับ ลูกสาวของผมวัยสองขวบครึ่งกำลังเรียนอนุบาลที่นี่อยู่ ภรรยาของผมลงคอร์สเรียนภาษาเยอรมันแล้วด้วย พวกเราเตรียมพร้อมเพื่อที่จะได้อาศัยอยู่ที่นี่ต่อไปครับ"
มีเสียงเรียกร้องอยากให้ฮาเซเบะทำงานในฝั่งบริหารของแฟรงก์เฟิร์ตต่อจากนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่าทางท้องถิ่นก็จับตามองเรื่องตัวของเขาไม่แพ้กัน
แต่สำหรับฮาเซเบะที่ยังเป็นกำลังสำคัญของทีมอยู่นั้น เรื่องราวดังกล่าวจึงเป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่ได้เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้แน่
วันที่ 27 ตุลาคมตามเวลาท้องถิ่นแฟรงก์เฟิร์ตจะต้องบุกไปเยือนของโบรุสเซีย MG ส่วนในวันที่ 30 จะลงเตะฟุตบอลด้วยเจอกับ FC St. Pauli และในวันที่หนึ่งพฤศจิกายนจะเจอบิ๊กแมทช์เมื่อเปิดบ้านรับการมาเยือนของบาเยิร์นมิวนิก ท่าทางกว่าวันหยุดของ "กุนซือในสนาม" ฮาเซเบะ มาโคโตะนั้นยังคงอีกยาวไกลเลย
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest