ข่าวสุดช็อคกลายเป็นที่กระจ่างแล้ว

  วันที่ 26 กันยายนจากการรายงานของหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส Nice Martin และอีกหลาย ๆ แห่งระบุว่า พบตัวคนร้ายผู้ขโมยนาฬิกาสุดหรูมูลค่ากว่าสองล้านบาทของศูนย์หน้าทีมชาติเดนมาร์ก Kasper Dolberg แห่งสโมสร Nice ของลีกเอิงที่เก็บไว้ในห้องแต่งตัวเมื่อในวันที่ 16 กันยายนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

  จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นเมืองนีซ Nice Martin ระบุว่า คนร้ายก็คือเพื่อนร่วมทีมที่ต้องแก่งแย่งตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าอย่าง Lamine Diaby-Fadiga นั่นเอง

  ดียาบี-ฟาดีกาปัจจุบันอายุ 18 ปี เขาเป็นดาวรุ่งที่เรียกติดทีมชาติฝรั่งเศสทีมเยาวชนจากรุ่นสู่รุ่น ถูกชื่นชมเป็น "หนึ่งในศูนย์หน้าที่มีพรสวรรค์ระดับแนวหน้าที่สุดในยุค 10 ปีย้อนหลัง" สรุปก็คือเขาคือดาวรุ่งผู้กลายเป็นความหวังจากคนรอบข้างอย่างมากมาย

  เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าข้างขวาในเดือนเมษายนของปีนี้ที่ผ่านมาจึงทำให้เขาต้องถอนตัวระยะยาว ล่าสุดในเดือนนี้ก็กลับมาฝึกซ้อมร่วมกับทีมต่อได้อีกแล้ว ทว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็สร้างความแปลกประหลาดใจอย่างเป็นบริเวณกว้าง

  จากการรายงานของหนังสือพิมพ์หัวใหญ่ฝรั่งเศส L'Equipe ระบุว่า ตำรวจท้องถิ่นได้ขอความร่วมมือเพื่อตรวจสอบภาพจากบันทึกกล้องวงจรปิดจนระบุตัวคนร้ายได้ จะมีการสอบปากคำเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ซึ่งในกรณีที่เลวร้ายที่สุดดียาบี-ฟาดีกาจะถูกไล่ออกจากทีม นอกจากนั้นยังมีออกข่าวด้วยว่าเจ้าตัวนักเตะและทนายความได้เดินทางไปที่สนามฝึกซ้อมเพื่อก้มหัวกราบต่อกุนซือปาทริก วิเอร่าและเพื่อนร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย

  คนที่รู้สึกโล่งใจที่สุดคงหนีไม่พ้นดอลเบิร์กที่เป็นผู้เคราะห์ร้ายในเหตุการณ์นี้แน่

  จากการที่เขาเพิ่งย้ายมานีซในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาและกลายเป็นหัวหอกของทีมที่ถูกตั้งความคาดหวังอย่างสูงส่งนั้น เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงกับทำให้เจ้าตัวบอกกับทางฝั่งบริหารว่า "ถ้ายังไม่รู้ว่านาฬิกาอยู่ไหน ผมไม่อยากจะลงสนามแข่งเลย" เพราะฉะนั้นเมื่อคดีคลี่คลายแล้วเจ้าตัวคงรู้สึกโล่งอกไม่น้อย แต่ถึงกระนั้นก็คงรู้สึกช็อคไม่น้อยก็น้อยเช่นเดียวกันจากการที่เพื่อนร่วมทีมกลายเป็นหัวขโมยแบบนี้อีกด้วย

  ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าดียาบี-ฟาดีกาจะถูกปลดหรือไม่ นอกจากนั้นก็ยังมาดูฟอร์มการเล่นของดอลเบิร์กที่ได้คู่หูคู่ข้อมือกลับคืนมาแล้วเช่นเดียวกัน

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest