ประตูที่หายไปจากการตัดสินที่ไม่เป็นใจ
เบลผู้ที่สร้างผลงานให้กับมาดริดอย่างมากมายแต่กลับถูกทิ้งให้อยู่อย่างเดียวดาย ถึงประตูจากเท้าขวาจะตุงตาข่ายสุดงดงามเลยก็ตาม...
(C) Getty Images
วันที่ 18 กันยายนตามเวลาท้องถิ่น การแข่งขันนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มศึก UEFA Champions League เริ่มต้นขึ้น โดยการแข่งขันในกลุ่ม A สโมสร Real Madrid บุกไปเยือน Paris Saint-Germain แล้วพ่ายถล่มทลายที่สนาม Le Parc des Princes ถึง 0-3
ทางเรอัลมาดริดที่พ่าย PSG ที่ปราศจากหัวหอกทั้งเนย์มาร์ เอ็มบาปเป้และคาวานี่นั้นสื่อท้องถิ่นวิจารณ์หนักว่า "น่าสมเพช" "ยังไม่มีความเข้มข้นมากพอ" เป็นต้น มีเสียงชื่นชมเพียงเรื่องเดียวคือลูกยิงวอลเลย์สุดงดงามของแกเร็ธ เบล
นาที 36 ดานี่ การ์บาฆาลที่โยนลูกเติมเกมเข้าไปในแดนลึกของ PSG นั้น กองหลังอย่างเพรสเนล คิมเป็มเบ้เคลียร์ไม่ขาด ทางเบลที่เข้าไปเก็บบอลได้นั้นเขาก็ใช้เท้าซ้ายเดาะบอลเบา ๆ แล้วก็เคลื่อนที่หลบกองหลังจากนั้นก็ตวัดด้วยเท้าข้างขวาให้โค้งย้อยมุดลงมุมสามเหลี่ยมซ้ายบนได้อย่างงดงาม
ประตูดังกล่าวที่เชื่อว่าจะกลายเป็นพลังให้กับมาดริดที่ตามหลัง 2 ลูกฮึดสู้มาได้นั้นกลับถูกกฎใหม่ในฤดูกาลนี้ตัดสินว่าเป็นแฮนด์บอลจากการใช้ VAR เนื่องจากจังหวะเดาะบอลนั้นลูกลอยไปโดนแขนด้วย จึงทำให้ประตูดังกล่าวไม่นับว่าเป็นประตูแต่อย่างไร
ทว่าทางสื่อสเปนอย่าง SPORT ชื่นชมผลงานของเบลในนัดนี้เป็นอย่างยิ่ง ถึงขั้นวิจารณ์คาริม เบนเซม่าว่า "ไม่จำเป็นในสนาม" และเอแดน อาซาร์ว่า "มีแต่การเคลื่อนไหวที่เดาได้" พูดง่าย ๆ คือมีแต่การวิจารณ์เหล่านักเตะในแง่ลบ เว้นแต่ศูนย์หน้าทีมชาติเวลส์ว่าเป็น "พลังทำลายล้างเพียงหนึ่งเดียวในนัดนี้" พร้อมกับระบุดังนี้
"เรอัลมาดริดมีแต่เพียงแกเร็ธ เบลคนเดียวเท่านั้นที่โชว์ฟอร์มออกมาได้อย่างแสนสดชื่น เขามีความเจิดจรัสในครึ่งแรกเป็นอย่างยิ่งแต่กระนั้นก็ไม่ถูกตัดสินเป็นประตูเนื่องจากการทำแฮนด์บอล ทั้งที่ประตูของเขาพุ่งตุงตาข่ายอย่างงดงามแท้ ๆ เลย นอกจากนั้นเบลยังส่องประตูของเคเลอร์ นาบาสหลายต่อหลายรอบเลยด้วย"
ทางเรอัลมาดริดที่พ่าย PSG ที่ปราศจากหัวหอกทั้งเนย์มาร์ เอ็มบาปเป้และคาวานี่นั้นสื่อท้องถิ่นวิจารณ์หนักว่า "น่าสมเพช" "ยังไม่มีความเข้มข้นมากพอ" เป็นต้น มีเสียงชื่นชมเพียงเรื่องเดียวคือลูกยิงวอลเลย์สุดงดงามของแกเร็ธ เบล
นาที 36 ดานี่ การ์บาฆาลที่โยนลูกเติมเกมเข้าไปในแดนลึกของ PSG นั้น กองหลังอย่างเพรสเนล คิมเป็มเบ้เคลียร์ไม่ขาด ทางเบลที่เข้าไปเก็บบอลได้นั้นเขาก็ใช้เท้าซ้ายเดาะบอลเบา ๆ แล้วก็เคลื่อนที่หลบกองหลังจากนั้นก็ตวัดด้วยเท้าข้างขวาให้โค้งย้อยมุดลงมุมสามเหลี่ยมซ้ายบนได้อย่างงดงาม
ประตูดังกล่าวที่เชื่อว่าจะกลายเป็นพลังให้กับมาดริดที่ตามหลัง 2 ลูกฮึดสู้มาได้นั้นกลับถูกกฎใหม่ในฤดูกาลนี้ตัดสินว่าเป็นแฮนด์บอลจากการใช้ VAR เนื่องจากจังหวะเดาะบอลนั้นลูกลอยไปโดนแขนด้วย จึงทำให้ประตูดังกล่าวไม่นับว่าเป็นประตูแต่อย่างไร
ทว่าทางสื่อสเปนอย่าง SPORT ชื่นชมผลงานของเบลในนัดนี้เป็นอย่างยิ่ง ถึงขั้นวิจารณ์คาริม เบนเซม่าว่า "ไม่จำเป็นในสนาม" และเอแดน อาซาร์ว่า "มีแต่การเคลื่อนไหวที่เดาได้" พูดง่าย ๆ คือมีแต่การวิจารณ์เหล่านักเตะในแง่ลบ เว้นแต่ศูนย์หน้าทีมชาติเวลส์ว่าเป็น "พลังทำลายล้างเพียงหนึ่งเดียวในนัดนี้" พร้อมกับระบุดังนี้
"เรอัลมาดริดมีแต่เพียงแกเร็ธ เบลคนเดียวเท่านั้นที่โชว์ฟอร์มออกมาได้อย่างแสนสดชื่น เขามีความเจิดจรัสในครึ่งแรกเป็นอย่างยิ่งแต่กระนั้นก็ไม่ถูกตัดสินเป็นประตูเนื่องจากการทำแฮนด์บอล ทั้งที่ประตูของเขาพุ่งตุงตาข่ายอย่างงดงามแท้ ๆ เลย นอกจากนั้นเบลยังส่องประตูของเคเลอร์ นาบาสหลายต่อหลายรอบเลยด้วย"
นอกจากนั้นการนำ VAR เข้ามาใช้ในเกมลีกของแต่ละประเทศในฤดูกาลนี้ก็มีสื่ออังกฤษที่ตั้งแง่ถึงการยิงประตูดังกล่าวว่า "เบลถูก VAR ริบประตูคืนไป" จากการรายงานของ The Sun ดังนี้
"เบลไม่ได้ตั้งใจจะใช้แขนอยู่แล้ว แค่บอลมันไปโดนแขนของเขาเพียงเท่านั้น จากกฎใหม่ที่ระบุว่าหากบอลถูกแขนเมื่อไรก็จะกลายเป็นแฮนด์บอลในทุกกรณีจึงทำให้ช่วงเวลาที่แสนสุดยอดจากการทำประตูนี้ของแฟน ๆ และตัวเบลนั้นถูกช่วงชิงไปโดย VAR
นอกจากนั้นผู้บรรยายภาษาอังกฤษอย่าง Gary Lineker ที่เป็นผู้บรรยายในนัดนี้ก็ยังรำพึงว่า "ของพรรค์นี้เป็นเหตุให้ประตูที่แสนยอดเยี่ยมถูกริบไปงั้นหรือ" หากเป็นยุคสมัยที่ยังไม่มี VAR ล่ะก็มันจะกลายเป็นประตูที่แสนยอดเยี่ยมดังเช่นในยุคทองที่ราชันชุดขาวของเบลที่ทุกคนต้องร่วมยินดีด้วยอย่างแน่นอน"
ส่วนนักวิจารณ์อย่าง Martin Keown กับทาง BT Sports ก็ระบุว่า "ถ้าต้องยอมรับว่ามันไม่เป็นประตูเนี่ยในฐานะนักฟุตบอลมันก็ไม่ใช่แล้วล่ะ" ซึ่ง Rio Ferdinand อดีตนักเตะทีมชาติอังกฤษที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันก็ระบุว่า "VAR ในทุกวันนี้ทำให้มีประตูที่ไม่ได้รับการยินยอมเพิ่มมากขึ้น มันทำอะไรไม่ได้จริง ๆ นอกจากจะต้องโฟกัสกับกระแสในเกมที่เปลี่ยนไปเพียงเท่านั้น" เจ้าตัวพูดพร้อมกับยักไหล่
ถ้าประตูดังกล่าวไม่ถูกยกเลิกไปล่ะก็มันต้องกลายเป็นหนึ่งในการทำประตูที่สวยสดงดงามมากแน่นอน มั่นใจได้เลยว่าแฟน ๆ ที่มีความคิดเห็นเหมือนกับพวกเขาเหล่านี้คงมีไม่น้อยเลย
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest
次ページ【VIDEO】ลูกวอลเลย์สุดสวยของเบลที่กลายเป็นประตูมายาไปนั้นอยู่ทางนี้!