วันที่ 7 กันยายน อดีตศูนย์หน้าทีมชาติแคเมอรูน ซามูเอล เอโต ยอดนักเตะชื่อดังผู้เคยค้าแข้งกับทั้งบาร์เซโลน่าและอินเตอร์มิลานประกาศแขวนสตั๊ดออกมาอย่างเป็นทางการ โดยเจ้าตัวได้อัพเดทอินสตาแกรมว่า "THE END ผมตัดสินใจเลือกการท้าทายครั้งใหม่ ขอขอบคุณสำหรับความรักมหาศาลที่มีมาให้โดยตลอดนะทุกคน" ในที่สุดเส้นทางการค้าแข้งตลอด 22 ปีของเขานั้นก็ถึงจุดจบแล้ว

  เมื่อมีข่าวดังกล่าวออกมาสื่ออังกฤษ The Sun ก็ลงบทความพิเศษเพื่อรำลึกถึงผลงานที่ผ่านมาของเอโต "Best11 ยอดนักเตะจากแอฟริกา" พร้อมกับทำบทความดังกล่าวขึ้นมาที่มีนักเตะระดับตำนานเรียงกันอย่างคับคั่ง

  ระบบที่เลือกใช้เป็น 3-4-3 ผู้รักษาประตูคือ Vincent Enyeama อดีตทีมชาติไนจีเรียที่โชว์ผลงานการเซฟสวย ๆ ในทัวร์นาเมนต์นานาชาติมานับครั้งไม่ถ้วน ส่วน 3 แบ็คนั้นคือเสาหลักแสนมั่นคงผู้สวมปลอกแขนกัปตันจากประเทศสุดแกร่ง ฝั่งขวามือคือ Rigobert Song อดีตนักเตะทีมชาติแคเมอรูน คนกลางคือ Samuel Kuffour อดีตนักเตะกานาและคนซ้ายสุดคือ Lucas Radebe อดีตนักเตะทีมชาติแอฟริกาใต้

  มิดฟิลด์ตัวรับ 2 คนนั้นคือสุดยอดคู่หูดูโอ้ที่สู้กันอย่างดุเดือดในพรีเมียร์ลีก คนแรกก็คือ Yaya Touré อดีตนักเตะทีมชาติไอวอรี่โคสต์ ส่วนอีกคน Michael Essien อดีตนักเตะทีมชาติกานา ในฝั่งของปีกนั้นคือคู่หูสุดแกร่งของลิเวอร์พูลอย่าง Mohamed Salah กัปตันทีมชาติอียิปต์และ Sadio Mané นักเตะทีมชาติเซเนกัล

 

  ทว่าสิ่งที่อลังการงานสร้างที่สุดและมีพลังทำลายสูงสุดนั้นคือนักเตะกองหน้าตัวเป้า เอโตเป็นหน้าต่ำจากกองหน้าตัวเป้าทั้งสองคน โดยคนแรก Didier Drogba อดีตนักเตะทีมชาติไอวอรี่โคสต์ ส่วนอีกคนคือ George Weah จากลิเบอเรีย นอกจากนั้นก็ยังมี Nwankwo Kanu หรือ Roger Milla ที่มีรายชื่อเป็นยอดศูนย์หน้าของแอฟริกาใต้ด้วย แต่ถึงกระนั้น 3 คนที่เลือกมานั้นก็ไม่มีใครคัดค้านได้เลยทั้งสิ้น

  อนึ่ง รางวัลนักเตะแอฟริกาใต้ดีเด่นนั้นทั้งเอโตและยาย่า ตูเร่ต่างก็ถูกเลือกถึง 4 ครั้งที่เป็นจำนวนสูงสุด รองลงมาคือเวอาห์และเปเล่ที่คนละ 3 ครั้ง ส่วนนักเตะแอฟริกาเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัลบัลลงดอร์คือเวอาห์ในปี 1995

ข่าวโดยกองบรณาธิการ Soccer Digest