วันที่ 27 สิงหาคมตามเวลาประเทศไทย การเคลื่อนไหวของทีมชาติไทยภายใต้กุนซือคนใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยกุนซือคนใหม่นี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นนิชิโนะ อากิระ ที่คนญี่ปุ่นรู้จักกันเป็นอย่างดี
 
  นิชิโนะจะนำทีมชาติไทยลงสู้ศึกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 กับในเกมแรกซึ่งเป็นการเปิดบ้านรับการมาเยือนของเวียดนามในวันที่ 5 กันยายน จากนั้นในวันที่ 10 ก็จะบุกไปเยือนอินโดนีเซีย ซึ่งนิชิโนะได้เรียกนักเตะติดทีมชาติทั้งหมด 33 คน โดยในวันเสาร์นี้จะมีการเล่นเกมอุ่นเครื่องกับสโมสรในลีก 2 ของไทยจากนั้นก็จะมีการประกาศรายชื่อนักเตะทั้งหมด 23 คนออกมา
 
  จากการรายงานของหนังสือพิมพ์ Bangkok Post ได้ถ่ายทอดคำพูดของกุนซือนิชิโนะผู้ได้โบกไม้บาตองในต่างประเทศเป็นครั้งแรกว่า
 
  "ทีมสุดท้ายที่ผมคุมคือทีมชาติญี่ปุ่นในฟุตบอลโลกปี 2018 ครับ จากนั้นผมก็กลับมารับงานคุมทีมอีกครั้ง ก็รู้สึกเกร็งนิดหน่อยครับ"
 
  หลังจากที่มีการพลิกมาพลิกไปหลายครั้ง กว่านิชิโนะจะได้เข้ามาคุมทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการนั้นก็ตรงกับวันที่ 17 กรกฎาคม(ควบตำแหน่งคุมทีมชาติไทยรุ่น U-23 ด้วย) ท่ามกลางเวลาที่มีอย่างจำกัดเขาก็ต้องเตรียมทีมสู้ศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกทันที มิหนำซ้ำกว่าแกนหลัก 4 คนจะได้มาร่วมแคมป์กับทีมชาตินั้นก็ต้องเป็นช่วงต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งพวกเขาก็คือกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (ผู้รักษาประตูสโมสร Oud-Heverlee Leuven ที่เบลเยียม) แล้วก็กลุ่ม 3 นักเตะไทยในเจลีกอย่างชนาธิป สรงกระสินธ์(Hokkaido Consadole Sapporo) กองหลังธีราทร บุญมาทัน(Yokohama F Marinos) และมิดฟิลด์อย่างฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์(Oita Trinita) 

 

  ส่วนของทีมชาติญี่ปุ่นวันที่ 5 นี้จะมีเกมกระชับมิตรกับปารากวัย ในวันที่ 10 จะลงสู้ศึกคัดเลือกฟุตบอลโลกรอบแรกกับทีมเมียนมาร์ ส่วนทีมชาติไทยจะต้องลงสู้ศึกจริง 2 นัดที่มีความสำคัญยิ่งในสภาพที่แทบจะไม่มีการซ้อมใหญ่เลยก็ว่าได้
 
  กุนซือนิชิโนะระบุว่า "ผมสัมได้ได้ถึงศักยภาพในตัวของนักเตะแต่ละคนครับ งานแรกของผมคือการเข้าใจในบุคลิกของพวกเขาเสียก่อน มันจะเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างให้เกิดทีมเวิร์คขึ้นมา" เจ้าตัวระบุเช่นนั้น
 
  การแข่งขันของ "ทีมชาติไทยยุคกุนซือนิชิโนะ" ที่จะต้องเจอกับเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซียและ UAE ที่แสนดุเดือดนั้นกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest