Pick Up!

  • トップ
  • ニュース一覧
  • 「ห้ามไปบ้านไอ้หมอนั่นเป็นอันขาด!」อดีตสหายร่วมรบที่แมนยูของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ออกมาพูดถึงความเข้มงวดสุดโต่งของเขา

「ห้ามไปบ้านไอ้หมอนั่นเป็นอันขาด!」อดีตสหายร่วมรบที่แมนยูของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ออกมาพูดถึงความเข้มงวดสุดโต่งของเขา

カテゴリ:メガクラブ

サッカーダイジェストWeb編集部

2019/08/15

พอถูกชวนไปกินข้าวเที่ยง...

ปาทริซ เอฟร่ายอดนักเตะจอมทุ่มเทหนึ่งในแข้งยุคทองของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดออกมาพูดถึงสหายเก่าอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้

(C) Getty Images

画像を見る

  ศูนย์หน้าทีมชาติโปรตุเกส คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่แม้วัยจะปาไป 34 ปีแล้วแต่ยังฟิตปึ๋งปั๋งยังคงฉายแสงไม่เปลี่ยนแปลง

  แม้อายุจะมากขึ้นแต่ฟอร์มการเล่นที่แสดงออกมาก็ยังดูไม่ถดถอย เขาเปลี่ยนสไตล์การเล่นเพื่อทำประตูเป็นกอบเป็นกำเหมือนเดิม ทุกวันนี้ก็ยังแสดงความแข็งแกร่ง ความโดดเด่นของเขายิ่งเพิ่มขึ้นในทุก ๆ วันเสียด้วยซ้ำ แม้กระทั่งฤดูกาลแรกในเซเรียอากับสโมสรยูเวนตุสนั้น โรนัลโด้ก็ลงสนามไป 43 นัดยิงไปทั้งสิ้น 28 ประตูและ 10 แอสซิสต์เป็นตัวเลขที่แสนเหลือเชื่อ

  ซึ่งหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ซูเปอร์สตาร์คนนี้ยังคงรักษาฟอร์มดีได้ไม่เสื่อมคลายนั้นก็คือเรื่องความยึดติดของเขา

  เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าโรนัลโด้เปรียบเสมือน "เครื่องจักรนักเพาะกาย" ​ที่ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนร่างกายซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง จนมีข่าวลือออกมาทั้ง "โรนัลโด้ซิทอัพวันละ 3,000 ครั้ง" "เพาะกายทุกครั้งทั้งในยามหลับและยามตื่น" เป็นต้น

  ล่าสุด ผู้ที่ออกมาบอกเล่าเรื่องราวของซูเปอร์สตาร์ที่เป็นยอดนักกีฬาอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้นั้นก็คือสหายร่วมรบที่เคยกินข้าวหม้อเดียวกันอย่างอดีตกองหลังทีมชาติฝรั่งเศส ปาทริซ เอฟร่า

  เขาร่วมฟาดแข้งกับโรนัลโด้ที่แมนยูเป็นระยะเวลา 3 ปี เป็นหนึ่งในแข้งยุคทองของสโมสร ล่าสุด เอฟร่าให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษ ITV พร้อมกับระบุว่า "ห้ามรับคำชวนไปกินข้าวเที่ยงกับมันเป็นอันขาดนะ ถ้าถามเมื่อไรตอบ "ไม่!" อย่างเดียวพอ" เขากล่าวเช่นนั้นแล้วก็เริ่มเล่าให้ฟัง

  "มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาเคยชวนผมว่า "ปาทริซ​ ถ้าวันนี้ฝึกเสร็จแล้วมาที่บ้านผมสิ! มากินข้าวกัน" แน่นอนว่าผมก็ไป ก็ฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงมากมันก็เหนื่อยมากเลยล่ะ ทว่าพอไปถึงบ้านของโรนัลโด้ปุ๊บก็พบว่ามื้อเที่ยงมีแค่สลัดกับเนื้อไก่เท่านั้น เครื่องดื่มก็ไม่ใช้น้ำผลไม้ด้วยแต่เป็นน้ำเปล่า ตอนแรกผมก็คิดว่า "เออ กินไปสักพักหนึ่งสงสัยคงมีเนื้ออร่อย ๆ มาเสริฟมั้ง" แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรนอกจากนั้นเลย"

  นอกจากนั้นหลังรับประทานมื้อเที่ยงเสร็จแล้วโรนัลโด้ก็ยังทำให้เอฟร่าตกใจอย่างต่อเนื่อง

  "พอกินข้าวเสร็จแล้วเขาก็รีบลุกแล้วก็ไปเตะบอลทันที หลังจากที่เขาโชว์ฟอร์มให้กับผมดูพักนึง "เอาล่ะ ปาทริซ พวกเรามาเล่นเกมแตะบอลกันเถอะ" ผมเลยตอบไปว่า "ไม่ล่ะ พึ่งกินข้าวเสร็จเองไม่ดีกว่า" ถึงจะปฏิเสธไปแต่เขาก็ "ไม่เอาน่า มาเล่นกันเถอะ!" สุดท้ายก็บังคับให้ผมไปเล่นด้วยล่ะ(หัวเราะ)

  แล้วพอเล่นเกมแตะบอลกับเขาได้พักหนึ่ง สักพักก็ไปว่ายน้ำต่อ ว่ายน้ำเสร็จก็ลงอ่างจากุซซี่ เสร็จแล้วก็ซาวน่า จนในที่สุดผมก็โดนปล่อยตัวออกมา ก่อนจากกันผมก็ถามเขาไปว่า "คริสเตียโน่ ที่เรียกมาเนี่ยก็เพราะจะแข่งขันกันงั้นเหรอ? ไม่ใช่กินข้าวเที่ยงหรอกเหรอ?" ผมก็ว่าไปอย่งานั้นแหละครับ"

  และแล้วเอฟร่าก็กล่าวเตือนว่า

  "ถ้าเกิดคริสเตียโน่ชวนไปกินข้าวเที่ยงที่บ้านล่ะก็ ให้ตอบว่า "ไม่เอา!" เพียงเท่านั้นน่ะ หมอนั่นเป็นแค่เครื่องจักรเพาะกายเท่านั้น ไม่เคยคิดที่จะหยุดซ้อมหรอก มันเป็นประสบการณ์ที่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วล่ะ"

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest

Facebookでコメント