Pick Up!

  • トップ
  • ニュース一覧
  • 「โมดริชไม่ได้บาดเจ็บสักหน่อย」ยอดนักเตะที่ไม่ได้ร่วมทัพชุดใหญ่ล่าสุดนั้น หรือว่าถึงคราวที่เขาจะออกทีม?

「โมดริชไม่ได้บาดเจ็บสักหน่อย」ยอดนักเตะที่ไม่ได้ร่วมทัพชุดใหญ่ล่าสุดนั้น หรือว่าถึงคราวที่เขาจะออกทีม?

カテゴリ:ワールド

サッカーダイジェストWeb編集部

2019/08/08

สื่อสเปนเกาะติดสถานการณ์ "การปฏิบัติที่ยากเกินกว่าจะเข้าใจ"

7 ปีที่อยู่กับราชันชุดขาวและคว้ารางวัลมา 10 ถ้วย... หรือว่าวันที่จะจากลากันมาถึงแล้ว?

(C)Getty Images

画像を見る

  วันที่ 7 สิงหาคมตามเวลาท้องถิ่น เรอัลมาดริดนำทัพนักเตะชุดใหญ่เดินทางไปที่ออสเตรเลียเพื่อลงแข่งเกมกระชับมิตรกับสโมสร Redbull Salzburg ในช่วงพรีซีซัน คราวนี้ซีดานใช้ระบบ 3 กองหลังเป็นครั้งแรกในฤดูกาล(3-4-2-1) นัดนี้เรอัลมาดริดคว้าชัยชนะได้ด้วยผลงานการทำประตูของเอแดน อาซาร์
 
  นักเตะ 20 คนที่ดีที่สุดที่ซีดานเลือกนั้น แน่นอนว่า 3 นักเตะนอกสายตาอย่างฮาเมส โรดริเกซ, แกเร็ธ เบลและมาเรียโน่ ดีอาซหลุดโผไปตามความคาดการณ์แล้ว ก็ยังรวมถึงคู่หูวัย 18 ปีน้องใหม่ของทีมอย่างคุโบะ ทาเคฟุสะและโรดริโก้ที่ต้องลงเล่นกับทีมกัสตีย่า(ทีมชุด B) ในนัดกระชับมิตรที่เจอกับ AD Alcorcón ในวันเดียวกันอีกด้วย

  ทว่ายังหลงเหลืออีกหนึ่งคนที่หลุดโผไปอย่างไม่คาดคิด เขาคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากนักเตะเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ปีล่าสุดแห่งทีมชาติโครเอเชีย ลูก้า โมดริชนั่นเอง
 
  ทางการมาดริดให้เหตุผลว่า "เจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บ" ทว่าหนังสือพิมพ์สเปนอย่าง AS กลับลงข่าวว่า "การที่โมดริชไม่ติดทีมไปด้วยนั้นเป็นการกระทำที่น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง" และ "เขาไม่ได้บาดเจ็บสักหน่อย" เป็นการระบุเช่นนั้นพร้อมกับอธิบายเพิ่มเติมว่า
 
  "ลูก้า โมดริชที่ไม่มีปัญหาเรื่องสภาพร่างกายแต่อย่างไรนั้น เขากลับไม่ถูกเลือกให้ติดกลุ่มนักเตะตัวจริงชุดใหญ่ที่จะไปเจอกับสโมสรซัลซ์บวร์กอย่างยากที่เกินกว่าจะทำความเข้าใจ มันเป็นเพราะการตัดสินใจของซีดานหรือไม่? หรือเป็นเพราะเจ้าตัวนักเตะโครเอเชียปรารถนาที่จะย้ายทีมกันแน่? ไม่แน่ว่าบางทีเรื่องราวใต้น้ำอาจจะดำเนินไปถึงขั้นที่รอนับถอยหลังการย้ายทีมแล้วก็เป็นได้"

  หลังจากนั้นทางหนังสือพิมพ์ก็นำเอาเหตุการณ์เมื่อ 1 ปีก่อนมาเท้าความให้ฟังว่า หลังจากที่ลูก้าโมดริชกลับมาจากศึกฟุตบอลโลกที่รัสเซียนั้นเจ้าตัวก็ปรารถนาที่จะย้ายออกทีม แม้สโมสรชื่อดังอาทิอินเตอร์มิลานจะยื่นข้อเสนอที่หอมหวานมาให้กับทางมาดริดก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าประธานสโมสรอย่างฟลอเรนติโน่ เปเรซกลับปัดข้อเสนอดังกล่าวทิ้ง หลังจากนั้นก็เพิ่มค่าเหนื่อยรายปีให้กับโมดริชอย่างมหาศาลจนเทียบเท่ากับคาริม เบนเซม่าที่ปีละ 10 ล้านยูโร(ประมาณ 344 ล้านบาท)
 
  แต่ก็ระบุเพิ่มเติมว่า "ทว่าตัวของโมดริชในปัจจุบันนี้ที่วัย 33 ปีนั้น ขณะนี้ก็เข้าสู่ช่วงบั้นปลายของการค้แข้งแล้ว" ซึ่งนั่นคือมุมมองของทาง AS พร้อมกับระบุว่า "หลังจากทีมทำสัญญากับฉบับใหม่อย่างโทนี่ โคลสเรียบร้อยแล้ว ก็ยังมีภารกิจใหญ่หลวงของฝั่งบริหารอย่างการคว้าตัวพอล ป็อกบา ให้ได้ด้วยประการทั้งปวง หากมิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสย้ายมาเข้าร่วมทีมล่ะก็โอกาสที่โมดริชจะได้เป็นนักเตะตัวจริงก็จะหมดไป บางทีเจ้าตัวอาจจะรับรู้ถึงความอันตรายจนหวั่นวิตกแล้ว" เป็นการลงข่าวเช่นนั้น

 
  นอกจากนั้นแล้วทางมาดริดก็ยังสนใจที่จะคว้าตัวมิดฟิลด์ดาวรุ่งของอาแย็กซ์อย่างดอนนี ฟาน เดอบีควัย 22 ปีเข้ามาร่วมทีมอีกด้วย นั่นจึงหมายความว่าตำแหน่งของโมดริชนั้นเต็มไปด้วยความสั่นคลอน
 
  โมดริชย้ายจากท็อตแนมฮ็อตสเปอร์มาอยู่กับเรอัลมาดริดเมื่อฤดูร้อนปี 2012 เวลาผ่านไป 7 ปีแล้วอย่างรวดเร็ว เขาช่วยทีมคว้าแชมป์ศึก UEFA Champions League มาแล้ว 4 สมัย นับว่าเป็นตำแหน่งสำคัญในทีมที่ทำให้ทีมคว้าแชมป์มากมายจนถึงทุกวันนี้ ว่าแต่ว่าห้องเครื่องแดนกลางที่หาใครมาเปรียบเทียบยากอย่างลูก้า โมดริชนั้น เขาจะอำลาทีมราชันชุดขาวจริงหรือไม่ จากนี้ก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่า ความเรืองรองในหนึ่งยุคสมัยนั้นบางทีอาจจะถึงคราวสิ้นสุดแล้วก็เป็นไปได้

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest

Facebookでコメント