วันที่ 5 สิงหาคมตามเวลาท้องถิ่น สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดประกาศคว้าตัวกองหลังทีมชาติอังกฤษ แฮร์รี่ แมคไกวร์มาจากสโมสรเลสเตอร์ซิตี้อย่างเป็นทางการ

  แม้จะไม่มีการประกาศค่าตัวออกมาอย่างเป็นทางการ แต่จากการรายงานของ BBC ระบุว่า ค่าตัวของแมคไกวร์อยู่ที่ 80 ล้านปอนด์(ประมาณ 3,000 ล้านบาท) เป็นการทุบสถิติค่าตัวกองหลังสูงที่สุดในโลกของลิเวอร์พูลที่ซื้อตัวฟานไดค์ กองหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์จากสโมสรเซาธ์แฮมป์ตันมาด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์

  แมคไกวร์ที่ปัจจุบันนี้ในวัย 26 ปี เขาสร้างผลงานในศึกฟุตบอลโลกที่รัสเซียได้อย่างดีเยี่ยมด้วยการช่วยพาอังกฤษไปถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายได้ในรอบ 7 ทัวร์นาเมนต์ ชื่อเสียงของเขากลายเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของทุกคน

  แต่ถึงกระนั้นเขาก็เป็นนักเตะที่ไม่มีชื่อเสียงเรียงนามอะไรเลยเมื่อ 3 ปีก่อน จึงทำให้มีหลายเสียงติติงว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเสียสติไปแล้วที่ทุ่มเงินค่าตัว 80 ล้านปอนด์ขนาดนี้

  ผู้สื่อข่าวของ BBC ฟิล แมคนีลีย์ระบุว่า "แพงเกินไปแล้ว รู้ว่าขายได้ก็ตั้งราคาให้มันสุดไป" เขาอัพทวิตเตอร์เช่นนั้นพร้อมกับลงคำพูดของเป๊ป กวาดิโอลาร์ที่ลงศึกแย่งตัวแมคไกวร์เหมือนกันว่า "ต้องชื่นชมยูไนเต็ดที่สามารถเซ็นสัญญากับเขาได้ พวกเราไม่สามารถจ่ายได้จริง ๆ" เจ้าตัวสารภาพออกมาเช่นนั้น

  ว่าแต่ว่าค่าตัวของแมคไกวร์คุ้มค่ากับเงิน 80 ล้านปอนด์หรือไม่ ทาง BBC ได้นำเอาข้อมูลสถิติผ่านเว็บไซต์ Opta ออกมารายงานจากนั้นก็ตั้งแบบสอบถามว่าค่าตัวของแมคไกวร์ที่กลายเป็นสถิติโลกคนใหม่นั้นคุ้มหรือไม่

  BBC ได้เอาข้อมูลของเซนเตอร์แบ็คแมนยูอย่าง วิกตอร์ ลินเดเลิฟ, คริส สมอลลิ่ง, ฟิล โจนส์และเอริค ไบยี่ในฤดูกาล 2018-2019 มาเปรียบเทียบด้วยค่าเฉลี่ยต่อ 1 นัด ซึ่งแมคไกวร์ล้วนแต่เหนือกว่าพวกเขาทั้ง 4 คนหมดเลย

  มีเพียงแต่อัตราการดวลลูกกลางอากาศที่แพ้สมอลลิ่ง(4.3 ครั้ง) ที่ 4.1 ครั้ง ส่วนอัตราชนะการดวล(6.3 ครั้ง) การเคลียร์ลูก(5.3 ครั้ง) การจ่ายสำเร็จ(61 ครั้ง) นั้นเป็นตัวเลขที่ได้อันดับ 1 ท่ามกลางเซนเตอร์แบ็คของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด(ตัวเลขดังกล่าวคือค่าเฉลี่ยต่อ 1 นัด)

  ต่อไปเอามาเปรียบเทียบกับฟานไดค์, เซร์ฆิโอ รามอส, เฆราด์ ปีเก้, แมกซ์ ฮุมเมลและกองหลังระดับเวิร์ลคลาสรวมทั้งสิ้น 9 คน จากสถิติทั้งหมด 6 ด้าน เนื่องจากแมคไกวร์เล่นกับพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ฤดูกาล 2016-2017 มาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว โดยเป็นการเปรียบเทียบสถิติกับผู้เล่นตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คที่ลงสนามอย่างเป็นทางการมากกว่า 6,000 นาที

  เมื่อนำเอามาเปรียบเทียบแล้วพบว่าสถิติของแมคไกวร์นั้นเหนือชั้นกว่าพวกเขาอย่างไม่อาจเทียบติด จำนวนครั้งที่แทคเคิลสำเร็จ(148 ครั้ง) จำนวนครั้งที่อินเตอร์เซ็ปได้(148 ครั้ง) นั้นเป็นอันดับหนึ่ง(ตัวเลขดังกล่าวคำนวณจาก 3 ฤดูกาล) นอกจากนั้นอัตราการดวลลูกกลางอากาศสำเร็จก็แพ้ฟานไดค์(74%)ที่ 71% เท่านั้น ซึ่งเหนือกว่ารามอส(65%)และฮุมเมล(66%)เสียอีก

  แน่นอนว่าทั้งหมดทั้งปวงนั้นก็มีความแตกต่างกันตามสภาพลีกและทีมอีกด้วย แค่ตัวเลขอย่างเดียวไม่สามารถเปรียบเทียบอะไรได้ แต่ถึงอย่างไรหากดูจากสถิติเพียงอย่างเดียวล่ะก็ แมคไกวร์ก็อยู่ในระดับเทียบเคียงกับกองหลังระดับแนวหน้าของโลกได้สบาย ๆ แต่สุดท้ายแล้วค่าตัวของแมคไกวร์จะคู่ควรกับสถิติ 80 ล้านหรือไม่นั้นก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน... ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าผลลัพธ์ที่ได้จากแบบสำรวจของ BBC นั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง...

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest