อีกประมาณหนึ่งปีข้างหน้าก็จะถึงโตเกียวโอลิมปิกแล้ว ทีมชาติญี่ปุ่นรุ่นอายุต่ำกว่า 23 ปีหรือที่เรียกว่าทีม U-23 นั้น ยังมีโควต้านักเตะอายุเกินที่คิดว่าแนวโน้มตัวเก็งที่จะถูกคัดเลือกเข้ามาติดทีมนั้นใกล้จะเห็นขึ้นในอีกไม่ช้านี้

  โควต้าอายุเกินในศึกโอลิมปิกนั้นมี 3 คน ตัวเก็งที่คาดว่าจะได้เล่นรับใช้ทีมชาติที่โตเกียวนั้นมี โชจิ เกน(Toulouse) ชิบาซากิ กาคุ(Deportivo) นากาจิมะ โชยะ(Porto) และโอซาโกะ ยูยะ(Bremen) ตามข่าวที่ออกมา จากการรายงานของหนังสือพิมพ์เยอรมัน kreiszeitung ระบุว่า ทางสโมสรเบรเมนต้นสังกัดของโอซาโกะ "ถ้าหากโอซาโกะปรารถนาที่จะเข้าร่วมล่ะก็ ทางสโมสรคงไม่ห้าม" ซึ่งนับเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเป็นอย่างยิ่ง

  ก็เพราะนับตั้งแต่ศึกเอเชียนคัพในเดือนมกราคมเป็นต้นมา สมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่นและเบรเมนสโมสรต้นสังกัดของโอซาโกะนั้นมีประเด็นกันในระดับหนึ่ง

  เดือนมกราคมปี 2019 ที่ผ่านมา โอซาโกะที่เข้าร่วมศึกเอเชียนคัพในฐานะนักเตะทีมชาติญี่ปุ่นนั้น เขาเป็นกำลังสำคัญช่วยให้ทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ แต่เมื่อกลับมาสโมสรต้นสังกัดเขาก็ถูกตรวจพบ "อาการบาดเจ็บที่หลังจนไม่สามารถลงสนามได้" จึงทำให้เขาต้องพักฟื้นรักษาตัว กว่าจะกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้งก็กินเวลาไปสองเดือนให้หลังที่เป็นช่วงปลายฤดูกาล

  ประเด็นดังกล่าวนั้นทำให้ทางฝั่งบริหารของเบรเมนและกุนซือ Florian Kohfeldt ถึงกับโมโหทางสมาพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่น "ทำให้นักเตะที่ไม่บาดเจ็บกลับมาด้วยอาการบาดเจ็บ ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่" แล้วก็ยืนกรานว่าในเดือนมิถุนายนจะไม่ส่งโอซาโกะเข้าร่วมศึก Copa America เป็นอันขาด ซึ่งนั่นทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นในระดับหนึ่ง

  ด้วยภูมิหลังที่เป็นเช่นนี้จึงทำให้คาดเดาว่า ศึกโอลิมปิกที่เปรียบเสมือน Copa America ที่ไม่ใช่ทัวร์นาเมนต์ภาคบังคับระดับนานาชาตินั้นทางสโมสรเบรเมนไม่น่าจะยินยอมที่จะส่งโอซาโกะเข้าร่วมแต่อย่างไร

  แต่กระนั้นทางหนังสือพิมพ์กลับลงช่าวว่า "โอซาโกะที่ได้รับความชื่นชมจากในประเทศบ้านเกิดอย่างล้นหลาม เจ้าตัวปรารถนาที่จะลงสู้ศึกโอลิมปิกที่จัดในประเทศ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างไร หากเจ้าตัวปรารถนาจริง ๆ ล่ะก็ทางเบรเมนคงไม่คิดที่จะเข้าไปขัดขวางกระมัง" เป็นการลงข่าวเช่นนั้น

  โอซาโกะเคยพลาดศึกโอลิมปิกที่อยู่ตรงหน้ามาแล้วหนหนึ่ง ในปี 2011 ในรอบคัดเลือกตัวแทนโอลิมปิกที่ลอนดอน โอซาโกะที่เปรียบเสมือนซาไก ฮิโรกิ "เหล่าผู้เล่นชุดลอนดอนโอลิมปิก" นั้น เขาเป็นหนึ่งในหัวหอกในยุคนั้นและได้ลงสนามรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายในฐานะนักเตะตัวจริง 4 จากใน 6 นัด

  แต่แม้โอซาโกะจะติดรายชื่อในนักเตะตัวสำรองรอบแรก แต่กระนั้นเขาก็ถูกตัดชื่อทิ้งในกลุ่มนักเตะที่จะลงทัวร์นาเมนต์ 18 คน เขาพลาดโอกาสลงศึกโอลิมปิกที่เป็นเวทีระดับนานาชาติของเขาไปอย่างน่าเสียดาย

  ภายหลังจากนั้นเขาก็ย้ายจากสโมสร Kashima Antlers ไปอยู่เยอรมันในปี 2013 แล้วก็เข้าร่วมศึกฟุตบอลโลกที่บราซิล จนกระทั่งปี 2018 ในศึกฟุตบอลโลกที่รัสเซียเขาก็ลงเล่นในฐานะนักเตะทีมชาติญี่ปุ่นโดยในนัดแรกที่ต้องเจอกับโคลัมเบียเขาก็สามารถทำประตูแรกของตัวเองในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกได้อีกด้วย โอซาโกะเป็นตัวตนสำคัญที่ทำให้ทีมชาติญี่ปุ่นเข้าไปถึงรอบตัดเชือกได้

  แน่นอนว่าจนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่มีการแสดงความปรารถนาของเจ้าตัวโอซาโกะออกมาแต่อย่างไร เพียงแต่ว่าเวทีโอลิมปิกที่เจ้าตัวพลาดไปต่อหน้าต่อตาเมื่อ 8 ปีก่อนนั้น โอกาสที่สะพานเข้าสู่เวทีนี้จะทอดมายังโอซาโกะนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินคาดฝันอะไรเลย

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest