เกมกระชับมิตรประจำวันที่ 21 กรกฎาคม การแข่งขันที่กรุงบอสตันประจำสหรัฐอเมริการะหว่างลิเวอร์พูลกับเซบีย่า เหตุการณ์ในวันนี้มีเรื่องที่ไม่แทบไม่เชื่อสายตาเกิดขึ้น

  นัดนี้ที่เซบีย่าเอาชนะได้ 2-1 แต่เหตุการณ์ที่เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนักอึ้งเกิดขึ้นในจังหวะเสมอกัน 1-1 ตอนนาที 76 ที่โชริส ญาญง กองหลังแห่งเซบีย่าพุ่งเข้าเสียบใส่นักเตะดาวรุ่งของลิเวอร์พูล ยาสเซอร์ ลารูซี่ ในจังหวะนั้นชัดเจนมากเลยว่าญาญงเข้าไม่ทันสะกัดบอลแล้ว เขาใช้เท้าเตะอัดใส่ขาข้างขวาของลารูซี่อย่างจงใจ เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นออกจะเกินไปไม่น้อยสำหรับการแข่งขันนัดกระชับมิตรที่ควรเป็นแค่เกมการอุ่นเครื่อง แน่นอนว่าการกระทำของญาญงนั้นก็ทำให้เขาถูกผู้ตัดสินมอบใบแดงไล่ออกจากสนามไป

  หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นลิเวอร์พูล Liverpool Echo ระบุว่า หลังการแข่งขันจบลงมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ เจมส์ มิลเนอร์ออกมาวิจารณ์ "เป็นการกระทำที่น่าละอาย" ส่วนกองหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์อย่างเฟอร์จิล ฟานไดค์ตำหนิว่า "การกระทำของเขาส่อสกุลออกมา" เป็นการรุมจวกญาญง

  ยอดกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ก็เช่นกัน "ถ้าให้พูดออกสื่อตรง ๆ เลยล่ะก็ ผมว่ามันไวเกินไปที่จะเริ่มฤดูกาลนะ" แม้จะพูดจาอ้อม ๆ แต่ก็แสดงออกถึงความโมโหของกุนซือผู้นี้ออกมาได้

  นอกจากนั้นคล็อปป์ก็พูดถึงสภาพของลารูซี่ว่า "ดูเหมือนว่าเขายังโชคดี แต่ของแบบนี้คงต้องใช้เวลาคอยสังเกตกันไปอีกพักหนึ่ง" ดูเหมือนว่าจะรอดจากอาการบาดเจ็บสาหัสไปได้

  "แต่การที่เขาไม่สามารถลงเล่นต่อเนื่องได้นั้นนั่นก็เท่ากับว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเลย เพียงแต่ว่าในห้องแต่งตัวยัง OK อยู่"

  หลังการแข่งขันจบลงญาญงออกมาอัพข้อความส่วนตัวระบุว่า "ผมอยากขอโทษต่อนักเตะและลิเวอร์พูลด้วย" เขากล่าวขอโทษออกมา

  "เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นไม่ควรเห็นในสนามฟุตบอลเลย มันเป็นการฟาวล์ที่เลวร้ายมาก ผมขอเอาใจช่วยนักเตะและครอบครัวของเขา"

  ส่วนกุนซือเซบีย่าอย่างจูเลน โลเปเตกีก็ระบุว่า "ญาญงเขารู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก เขารู้ดีว่าการกระทำของเขามันส่งผลให้ฝั่งตรงข้ามได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างยิ่ง" เจ้าตัวระบุเช่นนั้น

  "ผมเองก็เป็นห่วงลารูซี่ด้วย เท่าที่ถามเจอร์เก้นดูเห็นว่าปลอดภัยดี ไม่ได้บาดเจ็บอะไรรุนแรงนัก ซึ่งนั่นก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ"

  แต่ถึงแม้ลารูซี่จะไม่ได้บาดเจ็บหนักก็ตามแต่นั่นก็เป็นเพียงการมองโดยผลลัพธ์เท่านั้น จากนี้ต่อไปในอนาคตญาญงต้องถูกมองด้วยแง่ร้ายอีกพักใหญ่อย่างแน่นอน

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest