ซาไก โกโตคุที่สังกัดอยู่สโมสรฮัมบูร์กประจำบุนเดสลีกาลีก 2 นั้น เจ้าตัวซาไกเข้าร่วมกิจกรรมฝึกซ้อมของสโมสรที่จัดขึ้นในเยอรมัน ทว่าเรื่องราวดังกล่าวนั้นได้ทำให้แฟนบางส่วนวิพากษ์วิจารณ์ตัวของซาไกอย่างดุเดือด

  สโมสรฮัมบูร์กในฤดูกาล 2018-2019 นั้น ทีมไม่สามารถรั้งอันดับ 2 ที่จะได้รับสิทธิ์เลื่อนชั้นไปเล่นในฤดูกาลหน้าได้ โดยในการแข่งขันนัดสุดท้ายมีการพ่ายแพ้อย่างถล่มทลายเกิดขึ้นเป็นผลให้ทีมจบลงที่อันดับ 4 ไม่ได้แม้กระทั่งอันดับ 3 ที่จะไปลุ้นในเพลย์อ๊อฟด้วยซ้ำ ซึ่งผู้ที่กลายเป็นแพะรับบาปจากการที่ทีมต้องซ้ำชั้นต่อนั้นก็คือตัวของซาไก

  การแข่งขันนัดสุดท้ายในบ้านที่ต้องเจอกับ Duisburg นั้น นาที 83 ที่ซาไกลงสนามเขาถูกกองเชียร์โห่ไล่เป่าปากใส่อย่างแสนหนักหน่วงรุนแรง ทุกครั้งที่เขาสัมผัสบอลได้ก็จะถูกเป่าปากโห่ไล่ เมื่อการแข่งขันจบลงก็สังเกตเห็นชัดเลยว่าเจ้าตัวดูมีอาการเซื่องซึมลง

  หลังจากนั้นก็มีการคว้าตัวกุนซือ Dieter Hecking ที่คุมโบรุสเซียMG ในฤดูกาลก่อนเข้ามาคุมทีมเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ฤดูกาลหน้าเพื่อกลับไปเล่นยังลีกสูงสุดอีกครั้ง

  จนกระทั่งเมื่อทางสโมสรอัพรูปใหม่ในอินสตาแกรมที่เป็นภาพในการฝึกซ้อมนั้น ภายในภาพดังกล่าวมีซาไกเบลอ ๆ ในฉากหลัง ซึ่งนั่นทำให้แฟนบางส่วนเริ่มจวกด่ากันทันที "ไม่ต้องมีเขาอยู่ก็ได้แล้วมั้ง" "ยกเลิกสัญญาซะ" "ทำไมต้องจ่ายค่าเหนื่อย 500,000 ยูโรด้วยล่ะ" เป็นต้น

  แน่นอนว่าก็มีคอมเมนต์ในลักษณะ "มาตำหนิแค่คนเดียวแบบนี้ไม่ได้นะ" "ถ้าจะโทษว่าเป็นความผิดของซาไกคนเดียวก็ผิดใหญ่แล้ว" ก็มีหลายเสียงที่ปกป้องซาไกเหมือนกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็แสดงความเห็นว่า "จริงอยู่ที่ซาไกอาจจะก่อความผิดพลาดขึ้น แต่เขาก็เล่นได้อย่างดีเยี่ยมเพื่อไถ่โทษแล้ว" ซึ่งผู้รักษาประตูเพื่อนร่วมทีมของซาไกอย่าง Julian Pollersbeck ก็ส่งอีโมจิรูปจุมพิตให้กับคอมเมนต์ดังกล่าวด้วย

  แต่บางทีทางสโมสรอาจจะรู้สึกว่ามันเยอะเกินไปกระมังถึงได้โพสต์ข้อความดังนี้

  "ซาไกคือมืออาชีพที่แท้จริงผู้มีพันธสัญญากับทางเรา เขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสโมสร ความภักดีที่เขามีให้กับสโมสรนั้นคือแบบอย่างที่นักฟุตบอลคนอื่นควรเอาเยี่ยงอย่าง อยากให้แฟน ๆ ช่วยให้การสนับสนุนเขาเหมือนกันกับนักเตะคนอื่นด้วย"

  นอกจากนั้นทางสื่อท้องถิ่นอย่าง 90min ก็วิจารณ์ดราม่าดังกล่าวว่า "การกระทำแบบนี้ไม่สมกับเป็นแฟนของฮัมบูร์กเลย" หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น "HAMBURGER MORGENPOST" ก็ออกโรงวิจารณ์ดังนี้

  "กุนซือเฮคกิ้งคนใหม่นั้นเขาประเมินทักษะของซาไกไว้สูงมาก เจ้าตัวยังคิดเลยว่าการวิจารณ์ซาไกอย่างไม่มีเหตุไม่มีผลนั้นเป็นสิ่งที่วิปลาศเหลือเกิน ซาไกเขาก็รู้ตัวอยู่แก่ใจดี มันเป็นเรื่องยากมากที่เขาจะได้รับความสนับสนุนจากแฟน ๆ อีกครั้ง แต่ต่อให้ทุกอย่างมันไปไม่ได้สวยก็ตาม มันก็ไม่ใช่ความผิดของเขาแค่คนเดียวแต่อย่างไร"

  ซาไกยังมีสัญญาอยู่กับทางสโมสรจนถึงเดือนมิถุนายน 2020 ในช่วงท้ายฤดูกาลเจ้าตัวแสดงความสนใจที่จะรีเทิร์นมาเล่นที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง แต่การที่เข้ามาร่วมฝึกซ้อมรวมทีมแบบนี้ก็มีความเป็นไปได้ว่าเจ้าตัวอาจจะยังอยู่กับทีมเดิมต่อก็เป็นได้

  ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าซาไกจะอยู่กับฮัมบูร์กถึงปีที่ 5 ได้หรือไม่ หรือว่าเขาจะย้ายทีมกันแน่...? การตัดสินใจของซาไกนั้นต้องจับตามองกันต่อไป

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest