การแข่งขันที่แสนดุเดือดเพื่อแย่งชิงเก้าอี้ลำดับที่ 16
ทีมชาติไทยตกรอบแบ่งกลุ่ม แต่นัดที่สองที่เจอกับสวีเดนก็สามารถยิงประตูลูกแรกในทัวร์นาเมนต์ได้เป็นผลสำเร็จ
ภาพโดย: ซาซากิ ยูสุเกะ
ทัวร์นาเมนต์การแข่งขันระดับนานาชาติมีการจัดขึ้นทั่วทุกมุมโลก หนึ่งในนั้นก็คือศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกของ FIFA ที่จัดขึ้น ณ ประเทศฝรั่งเศส ผู้เขียนได้มีโอกาสชมการแข่งขันสดจากสนามอยู่หลายนัดเหมือนกัน ซึ่งบรรยากาศการแข่งขันของประเทศที่พัฒนาแล้วนั้นช่างสมแล้วจริง ๆ
เบื้องหลังการจับตามองทีมนาเดชิโกะเจแปนสู่ "เส้นทางการเป็นราชินีแห่งโลก" ก็ยังมีนักเตะทีมชาติไทยที่ได้ลงแข่งฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 ต่อเนื่องที่สร้างกระแสได้ในระดับที่ไม่แพ้กัน
"แค่จำนวนประเทศที่เข้าร่วมก็ดราม่าแล้ว"
ประเด็นฮือฮาที่สุดนั้นคือการพ่ายแพ้ถล่มทลายเมื่อเจอกับแชมป์เก่าอย่างสหรัฐอเมริกา (ทีมไทยแพ้ 0-13 นับเป็นสถิติการเสียประตูและการทำประตูที่เยอะที่สุดของฟุตบอลโลก)
หลังจบการแข่งขันนัดดังกล่าวก็ยังเหลืออีก 2 เกม แต่ดูจากสถานการณ์แล้วก็เรียกได้ว่าการจะคว้าชัยชนะให้ได้นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ โดยในก่อนการแข่งขันนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มที่จะเจอกับชิลีนั้น แม้ทีมจะพอลุ้นเข้ารอบด้วยหลาย ๆ เงื่อนไขทั้งการชนะนัดสุดท้ายแล้วลุ้นผลการแข่งขันคู่อื่นด้วยก็ตามจึงทำให้สื่อไทยเริ่มร่วมกันทำแคมเปญจ์" ผลักดันให้เกิดปาฏิหาริย์" เพื่อเป็นการเติมเชื้อเพลงความหวัง
"การต่อสู้ของเหล่านักรบหญิงที่จะคว้าเก้าอี้สุดท้าย"
การแข่งขันเพื่อคว้า "เก้าอี้ตัวที่ 16" จากสี่ทีมที่ได้อันดับ 3 ที่ดีที่สุดของทุกกลุ่ม ฝั่งตรงข้ามนั้นคืออาร์เจนตินาที่มีสภาพจิตใจสุดแข็งแกร่ง แคเมอรูนผู้ไม่เกรงกลัวยักษ์พร้อมกับทีมชาติไทยที่ยังมีความหวังหลงเหลืออย่างโรยรา
ผลการแข่งขันของคู่ก่อนหน้านี้อย่างสก็อตแลนด์กับอาร์เจนตินาจบลงที่ผลเสมอ 3-3(อาร์เจนตินาตามหลังอยู่ 0-3 ตลอดทั้งเกมหลังจากนั้นก็ยิงประตูต่อเนื่องจนตีเสมอได้จากจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ) ผลลัพธ์ดังกล่าวนั้นจึงทำให้เรื่องราวของเหล่านักรบหญิงยังคงดำเนินต่อไป
จนกระทั่งการแข่งขันนัดสุดท้ายที่ทีมชาติไทยมีเงื่อนไขเดียวต้องชนะให้ได้นั้น 3 ชั่วโมงก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น(แคเมอรูนปะทะนิวซีแลนด์ เงื่อนไขที่ไทยจะเข้ารอบสองทีมนี้ต้องเสมอ) การแข่งขันในนัดนี้ก็เสมอกัน 1-1 ตลอดทั้ง 90 นาทีซึ่งเป็นไปตามเงื่อนริบหรี่ที่ทีมชาติไทยต้องการ ทว่าในช่วงทดเวลาบาดเจ็บสุดท้ายของท้ายที่สุดนั้นทีมแคเมอรูนก็เอาชนะนิวซีแลนด์ได้ 2-1 สามารถคว้าเก้าอี้สุดท้ายของรอบตัดเชือกไปครองได้
"การท้าทายฟุตบอลโลก 24 ทีม"
คุณชิรากิ โยเฮผู้เป็นฟิตเนสโค้ชที่ติดตามทีมชาติไปด้วยนั้นได้พูดถึงทัวร์นาเมนต์ดังนี้
"ชาวไทยนั้นเป็นชนชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งในการ "ปล่อยวาง" ในช่วงเวลาที่มีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย ความพ่ายแพ้ในนัดแรก(แพ้อเมริกา 0-13)แน่นอนว่าก็ต้องรู้สึกอึดอัดสุด ๆ เลยล่ะครับ แต่หลังจากการแข่งขันจบลงทุกคนก็ร้องไห้ออกมา ผมได้ยินว่ามีนักเตะบางคนที่นอนไม่หลับทั้งคืนนั้นและคืนวันต่อมาด้วยล่ะครับ นอกจากนั้นก็ยังมีนักเตะบางคนที่ติดมือถือด้วย เลยเป็นการสื่อสารจากทางโค้ชที่ต้องริบมือถือของเหล่านักเตะตอน 4 ทุ่มก่อนการแข่งขันหนึ่งวันจนกว่าจะถึงช่วงรับประทานอาหารเช้า นับได้ว่าเป็นภาพบรรยากาศของทีมชาติที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลยครับ"
次ページเสียงแห่งความดีใจจากผลเสมอของอาร์เจนติน่าอย่างสุดปาฏิหาริย์