ฮาเซเบะ มาโคโตะ ที่ประกาศอำลาทีมชาติญี่ปุ่นหลังจบศึกฟุตบอลโลกที่รัสเซีย ผลงานของเขากับเกมลีกในฤดูกาล 2018-2019 นั้นเขาได้ลงสนาม 44 นัดช่วยให้ทีมเข้าถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายของศึกยูโรป้า ส่วนในเกมบุนเดสลิก้านั้นเขาก็ช่วยให้ทีมมีลุ้นคว้าเก้าอี้ไปแชมป์เปี้ยนส์ลีกจนถึงการแข่งขันนัดสุดท้าย เขากลายเป็นเสาหลักของแฟรงก์เฟิร์ตที่แสดงตัวตนออกมาอย่างโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง

  หลังฤดูกาลที่บ้าคลั่งจบลง สื่อเยอรมัน SGE4EVER ได้ลงสกู๊ปพิเศษเกี่ยวกับสโมสรแฟรงก์เฟิร์ต นักข่าวอย่างนาเดียน เปเตอร์และฟลอเรียน บาวเออร์ได้ระบุปัจจัยที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จว่า "แผงเกมรับสร้างผลงานที่แสนยอดเยี่ยม" เป็นการวิเคราะห์เช่นนั้น

  "นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล การใช้ระบบ 4 หลังที่กุนซืออาดี ฮุตเตอร์ทดสอบนั้นล้มเหลว แต่ด้วยความมากสามารถของเขานั้น เมื่อเปลี่ยนมาใช้ระบบ 3 กองหลังและ 2 วิงแบ็คจึงทำให้ระบบเกมรับมีเสถียรภาพตลอดจนจบฤดูกาล

  นอกจากนั้นการให้ฮาเซเบะ มาโคโตะเป็นตำแหน่งลิเบโร่(ตัวกลางของสามกลางรับ)นั้นเป็นปัจจัยที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด มันทำให้ทั้งกุนซือรวมไปถึงทุกคนในสโมสรได้ตระหนักถึงตัวตนของเขาอีกครั้ง นักเตะชาวญี่ปุ่นคนนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาก็โชว์ฟอร์มดีมาอย่างมากมาย แต่ฤดูกาลนี้ทำให้ความไว้เนื้อเชื่อใจที่มีกับตัวของเขานั้นถูกตอกย้ำอีกครั้ง แม้ปัจจุบันนี้วัยจะล่วงเลยไป 35 ปีแล้วก็ตามแต่ก็ยังมั่นใจว่าในฤดูกาลหน้าเขาจะกลายเป็นเสาหลักในแนวรับเส้นสุดท้ายของทีมอย่างแข็งแกร่งต่อไปได้เหมือนเดิม"

  นอกจากนั้นการอยู่ในสนามของฮาเซเบะก็ช่วยดึงเอาศักยภาพของนักเตะรุ่นเยาว์ออกมาได้ด้วย

  "การที่นักเตะวัย 19 ปีอย่าง Evan N'Dicka ได้เล่นร่วมกับฮาเซเบะในสนามนั้นก็เป็นการทำให้เขาเติบโตขึ้นมา ในช่วงท้ายฤดูกาลเขาครองตำแหน่งนักเตะตัวจริงได้อย่างมั่นคง มีข่าวคราวออกมาว่าสโมสร PSG สนใจที่จะคว้าตัวเอ็นดีก้าไปอยู่ด้วย แต่ตราบใดที่เขายังอยู่ไอน์ทรัดท์ต่อไปล่ะก็ เขาจะกลายเป็นหินผาที่แข็งแกร่งได้อย่างแน่นอน"

  แน่นอนว่านอกจากฮาเซเบะแล้ว ผู้เล่นในแนวรับก็ยังได้คำชมอย่างมากมาย Martin Hinteregger ที่ยืมตัวมาจาก Augsburg ในช่วงตลาดซื้อขายฤดูหนาว "เป็นการยืมตัวที่ตรงเป้ามาก" วิงแบ็คสองฝั่งอย่าง Danny da Costa และ Filip Kostić ก็ "เล่นได้อย่างโดดเด่นตลอดฤดูกาล" ท้ายที่สุดก็ผู้รักษาประตูอย่าง Kevin Trapp ที่ยืมตัวมาจาก PSG นั้น "เขาเล่นได้อย่างวิเศษมากจริง ๆ" เป็นการยกย่องแนวรับของทีมโดยทั้งปวง

  แน่นอนว่าสาเหตุที่ทีมมีฟอร์มดีในฤดูกาลนี้ส่วนหนึ่งก็เกิดจากผลงานของ 3 ประสานแนวหน้าอย่าง Luka Jović, Sébastien Haller และ Ante Rebić กระนั้นลูก้า โยวิชก็ย้ายไปเรอัลมาดริดอย่างเป็นทางการแล้ว อัลเลอร์เองก็มีข่าวคราวว่าจะย้ายทีมเช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงว่าแนวรุกของทีมจะต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

  เพื่อการนั้นแล้วในช่วงท้ายบทความจึงมีการระบุว่า "สโมสรจำเป็นต้องมีการเสริมทัพเพื่อตั้งเป้าหมายให้สูงยิ่งกว่านี้" น่าคาดหวังถึงผลงานของแฟรงก์เฟิร์ตในฤดูกาลหน้าเป็นอย่างยิ่ง

  ฮาเซเบะถูกยกติดตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยม 11 คนของลีกอาชีพเยอรมันจากนิตยสารฟุตบอลของเยอรมัน kicker ในฤดูกาล 2018-2019 นอกจากนั้นยังได้ MVP ในทัวร์นาเมนต์ยูโรป้าไปอีกด้วย จะบอกว่านี่เป็นช่วงสูงสุดในการค้าแข้งของเขาก็ว่าได้กระมัง ในเดือนมกราคมปีหน้าเขาจะมีอายุ 36 ปี หวังว่าเขาจะยังโชว์ฟอร์มการเล่นอย่างขยันขันแข็งที่แนวหน้าได้อย่างเหมือนเดิม

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest