ฝันถึงนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกกับบราซิล
บาจโจ้(ซ้าย)ที่ถูกส่งลงเป็นผู้สังหารจุดโทษคนสุดท้ายแต่เขากลับยิงหลุดกรอบไป ความฝันที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสูญสลาย
(C)Getty Images
การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกนั้น ไม่ว่าจะนักเตะคนไหนต่างก็มีความฝันที่อยากลงสนามในวันนั้น เพราะฉะนั้นยิ่งความฝันยิ่งใหญ่มากเท่าไรความผิดพลาดในการแข่งขันที่แสนสำคัญนั้นต้องกลายเป็นบาดแผลในจิตใจที่ไม่มีวันเยียวยาได้อย่างแน่นอน
อดีตศูนย์หน้าทีมชาติอิตาลีอย่างโรแบร์โต้ บาจโจ้นั้นเป็นที่ทราบชื่อเสียงเรียงนามกันดี ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 1994 กับบราซิลที่ประเทศอเมริกา บาจโจ้ที่ถูกส่งลงไปสังหารจุดโทษเป็นคนที่ 5 นั้น หากเขายิงพลาดล่ะก็จะเป็นความพ่ายแพ้โดยทันที ท่ามกลางความรู้สึกกดดันที่มีอย่างมากมาย บาจโจ้ยิงบอลข้ามคานออกไป ภาพของบาจโจ้ที่ยืนแข็งทื่อไปเลยนั้นกลายเป็นฉากในตำนานของวงการฟุตบอล
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเวลาล่วงเลยมาถึง 25 ปีแล้ว ล่าสุดบาจโจ้เปิดเผยว่าฉากดังกล่าวนั้นยังทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ จากการรายงานของ ANSA NEWS สื่ออิตาลี ทางบาจโจ้ที่เข้าร่วมกิจกรรมที่ Belgrade นั้นเขาให้สัมภาษณ์ว่า "การยิงจุดโทษพลาดในคราวนั้นทำให้ผมนอนไม่ค่อยจะหลับจนถึงทุกวันนี้ แต่สภาพความสิ้นหวังสุดกู่นั้นเป็นผลดีกับการฝึกซ้อมมากเลยครับ" เจ้าตัวกล่าวเช่นนั้น
"ผมมีความฝันที่อยากจะสู้กับทีมชาติบราซิลในรอบชิงชนะเลิศด้วยความต้องการล้างแค้นที่แพ้ในนัดชิงของฟุตบอลโลกปี 1970 แต่ว่าความฝันกับความเป็นจริงมันแตกต่างกัน ใจของผมคาดหวังให้ผลลัพธ์มันแตกต่างออกไปจากเดิม"
อดีตศูนย์หน้าทีมชาติอิตาลีอย่างโรแบร์โต้ บาจโจ้นั้นเป็นที่ทราบชื่อเสียงเรียงนามกันดี ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 1994 กับบราซิลที่ประเทศอเมริกา บาจโจ้ที่ถูกส่งลงไปสังหารจุดโทษเป็นคนที่ 5 นั้น หากเขายิงพลาดล่ะก็จะเป็นความพ่ายแพ้โดยทันที ท่ามกลางความรู้สึกกดดันที่มีอย่างมากมาย บาจโจ้ยิงบอลข้ามคานออกไป ภาพของบาจโจ้ที่ยืนแข็งทื่อไปเลยนั้นกลายเป็นฉากในตำนานของวงการฟุตบอล
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเวลาล่วงเลยมาถึง 25 ปีแล้ว ล่าสุดบาจโจ้เปิดเผยว่าฉากดังกล่าวนั้นยังทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ จากการรายงานของ ANSA NEWS สื่ออิตาลี ทางบาจโจ้ที่เข้าร่วมกิจกรรมที่ Belgrade นั้นเขาให้สัมภาษณ์ว่า "การยิงจุดโทษพลาดในคราวนั้นทำให้ผมนอนไม่ค่อยจะหลับจนถึงทุกวันนี้ แต่สภาพความสิ้นหวังสุดกู่นั้นเป็นผลดีกับการฝึกซ้อมมากเลยครับ" เจ้าตัวกล่าวเช่นนั้น
"ผมมีความฝันที่อยากจะสู้กับทีมชาติบราซิลในรอบชิงชนะเลิศด้วยความต้องการล้างแค้นที่แพ้ในนัดชิงของฟุตบอลโลกปี 1970 แต่ว่าความฝันกับความเป็นจริงมันแตกต่างกัน ใจของผมคาดหวังให้ผลลัพธ์มันแตกต่างออกไปจากเดิม"
อัจฉริยะแห่งวงการลูกหนังคนนี้เคยค้าแข้งกับทั้ง Vicenza, Fiorentina, Juventus, Milan, Bologna, Inter, Brescia และอื่น ๆ แต่บาจโจ้ก็ระบุว่า "ทุกทีมล้วนแต่เชื่อมโยงกัน" พร้อมกับอธิบายดังนี้
"โชคดีที่ผมได้เล่นอยู่กับสโมสรยักษ์ใหญ่ แต่ผมก็ได้เรียนรู้จากทุกทีมอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้เพื่อชิงแชมป์รวมไปถึงการต่อสู้เพื่อหนีตกชั้น"
บาจโจ้คว้าแชมป์เซเรียอา 2 หน นอกจากนั้นยังได้รางวัลบัลลงดอร์และอื่น ๆ มาอีกด้วย เขาคือผู้ที่คว้าเกียรติยศมาอย่างมากมาย แต่กระนั้นความฝันที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครองนั้นก็ไม่เป็นจริงซึ่งนั่นทำให้เขาชอกช้ำจนถึงทุกวันนี้
ทว่าสิ่งที่บาจโจ้ได้กลับมานั้นคือบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิต ถ้อยคำของบุรุษที่ผ่านความสิ้นหวังเหนือคำบรรยายมาได้นั้นช่างสง่างามมากเหลือเกิน
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest
"โชคดีที่ผมได้เล่นอยู่กับสโมสรยักษ์ใหญ่ แต่ผมก็ได้เรียนรู้จากทุกทีมอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้เพื่อชิงแชมป์รวมไปถึงการต่อสู้เพื่อหนีตกชั้น"
บาจโจ้คว้าแชมป์เซเรียอา 2 หน นอกจากนั้นยังได้รางวัลบัลลงดอร์และอื่น ๆ มาอีกด้วย เขาคือผู้ที่คว้าเกียรติยศมาอย่างมากมาย แต่กระนั้นความฝันที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครองนั้นก็ไม่เป็นจริงซึ่งนั่นทำให้เขาชอกช้ำจนถึงทุกวันนี้
ทว่าสิ่งที่บาจโจ้ได้กลับมานั้นคือบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิต ถ้อยคำของบุรุษที่ผ่านความสิ้นหวังเหนือคำบรรยายมาได้นั้นช่างสง่างามมากเหลือเกิน
ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest