「ถ้าไม่ใช่นัดชิงชปล.ล่ะก็ คงเรียกกู๊ดเกมไม่ได้หรอกนะ」มูรินโญ่วิจารณ์ถึงแชมป์ทัวร์นาเมนต์ที่มีสถิติอันดับ 3 จากล่างสุด

2019年06月02日 サッカーダイジェストWeb編集部

แม้ลิเวอร์พูลจะครองแชมป์ได้ในรอบ 14 ฤดูกาลก็ตาม

มูรินโญที่ได้วิเคราะห์เกมอยู่ข้างสนาม ถ้อยคำของเขาก็ยังคงแหลมคมเหมือนเดิม

(C) Getty Images

  วันที่ 1 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศศึก UEFA Champions League สโมสรลิเวอร์พูลเอาชนะท็อตแนมฮ็อตสเปอร์ได้ด้วยผลการแข่งขัน 2-0 ทำให้คว้าแชมป์สมัยที่ 6 ได้ในรอบ 14 ปี

  30 วินาทีแรกหลังเริ่มเขี่ยลูก โมซ่า ซิสโซโก้ทำแฮนด์บอลในเขตโทษจนทำให้ลิเวอร์พูลทำประตูขึ้นนำก่อนได้อย่างรวดเร็ว เป็นผลให้สเปอร์ต้องเป็นฝ่ายไล่ตามตลอดทั้งเกม แต่กระนั้นก็ไม่สามารถยิงบอลผ่านมือของนายทวารอย่างอลิสซอนไปได้ และแล้วนาที 87 ดิว็อก โอริกี ก็กดประตูตอกย้ำให้ทีมคว้าแชมป์ไปครอง

  ทาง Sky Sports ที่ถ่ายทอดคำพูดของโชเซ่ มูรินโญ่ อดีตกุนซือของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกับทาง beIN Sports ว่า "หากนี่ไม่ใช่การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศของรายการใหญ่ล่ะก็ ภาพรวมการแข่งขันนัดนี้ควรได้รับการประเมินค่าว่าไม่ค่อยดีเท่าไรนัก" เป็นการแสดงความคิดเห็นเช่นนั้น

  มูรินโญ่ระบุว่า ลิเวอร์พูลแพ็คแดนกลางกับแดนหลังแน่น "ใช้แผนบล็อคทั้ง 7 คน" พร้อมกับระบุว่า "เป็นแผนที่ใช้ผลได้จริง เกมรับแน่นหนาแข็งแกร่งมาก" พร้อมกับกล่าวเสริมว่า

  "หากนี่ไม่ใช่การแข่งขันนัดชิงของแชมป์เปี้ยนส์ลีกส์ แต่เป็นแค่เกมพรีเมียร์ลีกหรือนัดชิงลีกคัพทั่วไปล่ะก็ พวกเราคงเรียกว่าเป็นกู๊ดเกมไม่ได้หรอกนะ"

  เจ้าตัวมูรินโญ่ยังระบุเพิ่มเติมว่า "เพราะว่านี่คือนัดชิงที่ด้านจิตใจจึงมีส่วนสำคัญ เพียงแต่มันก็ไม่ใช่นัดชิงชนะเลิศที่มีคุณภาพเลย"

  "สเปอร์น่าจะรู้สึกอึดอัดไม่น้อยเลย นัดนี้พวกเขาแพ้ นอกจากนั้นพวกเขารู้ตัวดีว่าตัวเองควรจะทำได้ดีมากกว่านี้ ในช่วงเวลาที่แสนสำคัญนี้นั้นสิ่งสำคัญคือคุณต้องอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด"
 
  ทาง Sky Sports ลงข่าวว่า อัตราการครองบอลน้อยกว่าอินเตอร์มิลานสมัยที่มูรินโญ่คว้าแชมป์ปี 2010 ที่ 35.4% ส่วนอัตราความแม่นยำในการจ่ายลูกที่ 64.34% นั้นก็ได้อันดับ 3 จากล่างสุดในฤดูกาลนี้ นอกจากนั้นในครึ่งแรกที่มีการต่อบอลเพียง 101 ลูกนั้นก็นับว่าน้อยที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้อีกเช่นกัน

  กระนั้นอดีตนักเตะของลิเวอร์พูลอย่างไมเคิล โอเวน ก็ให้สัมภาษณ์กับทาง BT Sport ว่า "ใครสนใจเรื่องเล่นดีหรือเล่นแย่ล่ะครับ?" เป็นการเน้นย้ำว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการคว้าแชมป์

  "ขณะนี้ทีมอยู่ในวัฏจักรที่แสนยอดเยี่ยม พวกเขาจำเป็นต้องคว้าแชมป์ให้ได้ ในเมื่อนี่เป็นรายการใหญ่ ถ้ามีจุดเริ่มต้นจากตรงนี้ได้ก็ดีกว่าไม่ใช่หรือ"

  แม้ความคิดเห็นต่อการแข่งขันนัดนี้จะมีอย่างมากมายก็ตาม แต่ท้ายที่สุดแล้วลิเวอร์พูลก็คว้าแชมป์รายการใหญ่มาครองได้ มั่นใจได้เลยว่าขณะนี้กุนซืออย่างเจอร์เกน คล็อปป์และเหล่านักเตะของเขานั้นท่าทางคงกำลังฉลองชัยชนะกันอยู่อย่างแน่นอน

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest

次ページ【VIDEO】ไฮไลท์นัดชิงแชมป์เปี้ยนส์ลีกระหว่างสเปอร์กับลิเวอร์พูล

แชร์กับเพื่อนๆ
Twitterで更新情報配信中

関連記事