เพชรเม็ดงามแห่งเบลเยียมถึงคราวอำลาถิ่นสิงห์บลูส์

  วันที่ 30 พฤษภาคมตามเวลาท้องถิ่น การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศศึกยูโรป้า เชลซีเอาชนะอาร์เซนอลด้วยผลการแข่งขัน 4-1 ทำให้สโมสรคว้าแชมป์ยูโรป้าได้เป้นสมัยที่ 2 นับตั้งแต่ฤดูกาล 2012-2013 เป็นต้นมา

  การแข่งขันที่แสนยิ่งใหญ่ของคู่ปรับร่วมเมืองลอนดอนนั้น ดาวเด่นในนัดนี้คือมิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียม เอแดน อาซาร์ ในขณะที่ทีมนำอยู่ 1 ลูกนั้น เมื่อเข้าสู่นาที 60 ที่เปโดร โรดิเกรซทำประตูเพิ่มได้ 5 นาทีหลังจากนั้นอาซาร์ก็สังหารจุดโทษอย่างแสนเยือกเย็น จากนั้นในนาที 72 ก็ทำประตูเพิ่มอีกหนึ่งลูกเป็นการตอกย้ำชัยชนะในนัดนี้

  แม้ผลงานของอาซาร์จะโดดเด่นเป็นสง่ามากก็ตาม แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดนั้นคงไม่ใช่เรื่องอื่นใดนอกจากการอำลาสโมสรของเขา ตามที่สื่ออังกฤษได้รายงานกันไปว่าอาซาร์นั้นมีความคลั่งไคล้สโมสรเรอัลมาดริดตั้งแต่เยาว์วัย เขาประกาศจุดยืนอย่างการอยากไปเตะให้กับสโมสรนั้นออกมาอย่างชัดเจน ล่าสุดก็มีการตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นอาซาร์ก็พร่ำบอกถึงความรักของเขาที่มีต่อราชันชุดขาวนับครั้งไม่ถ้วน

  หลังการแข่งขันนัดชิงจบลง บุรุษตกเป็นกระแสที่สุดในตอนนี้นั้นก็เปิดปากถึงเรื่องอนาคตของตัวเองออกมากับทาง BT Sports สื่อที่ถ่ายทอดการแข่งขันนัดนี้ภายในช่วง Flash Interview
 

  "ผมว่าถึงเวลาที่ต้องกู๊ดบาย แต่ในวงการลูกหนังนี้อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาผมตั้งสมาธิถึงตัดชิง แต่มันก็เป็นสิ่งที่ตัดสินใจมาก่อนแล้ว มันถึงเวลาที่ผมจะต้องหาการท้าทายใหม่ ท้ายที่สุดก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของระหว่างสองสโมสร สำหรับผมนั้นก็ต้องรอเหมือนแฟน ๆ นี่แหละ"

  แม้ในช่วงท้ายจะมีความรู้สึกวก ๆ วน ๆ บ้างก็ตาม แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่อาซาร์เลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องการอำลาทีมนั้น การประกาศของเขาในคราวนี้จึงมีความหมายเป็นอย่างยิ่ง อนาคตของเขาคงไปอยู่ที่มาดริดอย่างไม่ผิดแน่

  ตลอด 7 ปีนับตั้งแต่ย้ายมาจาก Lille เมื่อเดือนมิถุนายน 2012 เขาช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัยและคว้ารายการหลักรวมทั้งสิ้น 6 ครั้ง ผลงานของเขายอดเยี่ยมอย่างไม่ทำให้เสื้อหมายเลข 10 ของเชลซีต้องอับอาย และแล้วในที่สุดเวลาที่เขาต้องลาจากสแตมฟอร์ดบริดจ์ก็มาถึงแล้ว

ข่าวโดย กองบรรณาธิการ Soccer Digest